บุรณัชย์ชี้รู้อยู่แล้ว13ส.ส.ปชป.จะถูกสอย เตรียมสู้2ปม

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 13 ราย ขาดคุณสมบัติจากการถือหุ้นเอกชนที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐว่า คาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว เพราะมีแนวทางการพิจารณาของวุฒิสภาก่อนหน้านี้ แต่ขอยืนยันว่า จะไม่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของ ส.ส.ทั้ง 13 ราย จนกว่าจะมีความชัดเจนตามกระบวนการการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยพรรคจะไม่เข้าแทรกแซง และขอยืนยันว่าไม่มีส.ส.คนใดเจตนาทำผิด

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ทีมกฎหมายได้พิจารณาข้อเท็จจริงเห็นว่า มีประเด็นสำคัญต้องพิจารณาประกอบการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ 2 เรื่องคือ 1. เจตนาของ ส.ส.ทั้ง 13 คน ว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงการถือครองหุ้นของ ส.ส.ทุกคน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชิต(ป.ป.ช.) ตั้งแต่ต้น โดยไม่มีการซุกหุ้นหรือปิดบัง และ 2. การถือครองหุ้นดังกล่าวมีปริมาณมากพอหรือมีพฤติกรรมที่ส่อว่าดำเนินการเพื่อแทรกแซงดุลพินิจ ของคณะกรรมการหรือบริษัทดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้พรรคมั่นใจว่า เป็นการตีความทางกฎหมาย ไม่ใช่การใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการทุจริตมิชอบหรือเป็นปัญหาทางการเมือง จึงไม่มีความจำเป็นที่ส.ส.ทั้ง 13 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

แนวทางกฎเหล็กทั้ง 9 ข้อของนายกรัฐมนตรี เป็นแนวทางที่พรรคยึดอย่างเคร่งครัดและจะใช้แนวทางดังกล่าวสนับสนุนการดำเนินการของพรรคเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใสเพื่อให้สาธารณชนรับทราบทุกขั้นตอน นพ.บุรณัชย์ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีนี้จะทำให้ถูกมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นเจ้าหลักการเรื่องกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดก็ถูกข้อกฎหมายย้อนกลับมาสู่ตัวเองหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ ตอบว่า พรรคยอมรับว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมีความสับสนจริง รวมทั้งเรื่องการตีความและแนวปฏิบัติของส.ส.

เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้งใหม่ ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ นพ.บุรณัชย์ ตอบว่า กว่าขั้นตอนจะแล้วเสร็จ ยังเหลืออีกหลายขั้นตอน และกำลังจะไปสู่การดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ จึงยังไม่ขอพูดขณะนี้ว่าการเลือกตั้งใหม่จะมีอะไรหรือเป็นอย่างไร ส่วนที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาล คิดว่าฝ่ายค้านคงพยายามนำทุกเรื่องมาเป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้ว แม้แต่เรื่องที่ไม่ควรจะเป็นประเด็นการเมือง อย่างกรณีไข้หวัดใหญ่ 2009 คิดว่าเรื่องนี้ประชาชนคงทราบดีอยู่แล้ว และพรรคขอยืนยันว่าเรายึดมั่นเรื่องการหน้าที่ พรรคมีมาตรฐานชัดเจน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย