นายกฯถอดโจทย์ประเทศไทย ย้ำไทยเข้มแข็งทางออก
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 2.เรื่องอานาคตที่มองไปไกลมากสุด คือ ความอยู่รอดของมนุษย์จากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เราไม่สามารถเพิกเฉยได้ ปัญหาโลกร้อน อากาศแปรปรวน ที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลอย่างรุนแรงต่อประชากรทั่วโลก ทั้งเรื่อง อาหาร พลังงาน สิ่งเหล่านี้จะย้อนกลับมา ตนว่าไม่เกิน 2-3 ปี ปัญหาวิกฤติราคาอาหารและพลังงาน จะย้อนมาสู่โลก และไทยอีกครั้ง เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเกิดวิกฤติการเงิน มักจะเกิดวิกฤติติอาหารมาก่อน 3.สภาพต่อไปจะมีการเปลี่ยนเป็นสังคมเมืองมากขึ้น แม้เป็นเรื่องปกติของการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม แต่ต้องคิดถึงผลกระทบทางสังคมด้วย วันนี้ลูกหลานเกษตร มีกี่คนที่คิดวางแผนเต็มใจเป็นเกษตรกรต่อไป ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยมาก สังคมเมืองเติบโตมาพร้อมกับปัญหา ที่กระทบโครงสร้างสถาบันครอบครัวอย่างรุนแรง
นายกฯกล่าวว่า 4.การพัฒนาประเทศชาติ และสังคม ทำให้เกิดการเพิ่มความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะการเรียกร้องสิทธิ เราจะเห็นการตื่นตัวการเรียกร้องสิทธิของคนมากขึ้น ทั้งเรื่องเสรีภาพ การไม่ต้องการให้ภาครัฐเข้าแทรกแซง ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน แต่จะบวกเข้าไปถึงสิทธิในการที่จะได้รับการบริการพื้นฐานจากรัฐมากขึ้นด้วย และ 5.ความคาดหวังที่คนไทยทุกคนที่จะได้รับสวัสดิการ
ถามว่ารัฐาลเดินหน้าตอบโจทย์ 5 ข้อนี้อย่างไร โจทย์ข้อเรื่องกระแสโลกาภิวัฒน์ ผมใช้เวลาเดินทางไปต่างประเทศพอสมควร เพื่อให้เกิดเชื่อมั่นเข้าใจสภาพความเป็นมาของประเทศเรา โดยเฉพาะยอย่างยิ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ภาพลักษณ์ของไทยได้รับผลกระทบรุนแรง ส่วนผลกระทบแวดล้อม โครงการไทยเข็มแข็ง หลายคนมองว่า เป็นการใช้จ่ายเงิน กู้เงิน แต่ความจริงรัฐบาลทำโครงการนี้ เพื่อเป็นการยกเครื่องประเทศไทย โดยใช้เงินฝาก ซึ่งเห็นแล้วจากการขายพันธบัตรที่ผ่านมา เพราะคนเอาเงินแช่ไว้เฉยๆ เราก็เอาเงินตรงนี้มากระตุ้น นอกจากนี้เรื่องแหล่งน้ำ เราต้องเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้ได้ สมมติเพิ่มได้อีกเท่าตัว เพียงเท่านี้ราคาสินค้าเกษตรไม่ต้องขยับขึ้น รายได้เกษตรกรจะเพิ่มเท่าตัวด้วย การลงทุนแหล่งน้ำ สะสางหนี้สิน ที่ทำกินเกษตรกร เป็นหัวใจสำคัญ เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่สามารถผลิตอาหารเพื่อส่งออกได้พร้อมกับผลิตพลังงานทดแทนด้วย นายกฯกล่าว