กลิ่นโชย

ถุงแดง

แม้รัฐบาลชุดนี้จะเปลี่ยนชื่อการหว่านเงินไปยังชนบทเป็น โครงการชุมชนพอเพียง

แต่การทุจริตที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ของโครงการในช่วงที่ผ่านๆ มาก็ยังไม่หมดไป

ล่าสุดนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการชุมชนพอเพียง ตั้งทีมพิเศษมี พล.อ.ชัชวาล ทัตตานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานชุมชนพอเพียง เป็นประธานเข้าไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหลายร้อยเรื่อง

ปัจจุบันมีโครงการที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 31,582 ชุมชน วงเงิน 8,432 ล้านบาท

ชุมชนเบิกเงินไปได้จริงประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือ 30% ของวงเงินที่อนุมัติ

โครงการที่ได้รับการอนุมัติส่วนใหญ่เป็นโครงการประเภทอุปกรณ์ประกอบอาชีพทางการเกษตรประมาณ 35.44%

รองลงมาคือสาธารณูปโภค 22.74% อันดับ 3 คือ กลุ่มอาชีพ 21.51% ที่เหลือจะเป็นการผลิตปุ๋ย พลังงานทดแทน พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและต้นน้ำ ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว

เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตร สำนักงบประมาณจึงจัดทำราคากลางสำหรับสินค้าหรือเครื่องจักร เพื่อให้ชุมชนที่อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการจัดซื้อนำไปอ้างอิง

มีรายการสินค้าประมาณ 20 รายการ อาทิ เครื่องผลิตปุ๋ย เครื่องสีข้าว เครื่องผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ เครื่องนวดข้าว

หวังเอาไว้ว่าจะช่วยทุเลาการทุจริตได้บ้าง เพื่อไม่ให้เงินรัฐสูญเปล่า