เน็ตบุ๊กยอดทรงตัวรอลุ้น3จี มาตรฐาน 10 นิ้วแรงออกตัวราคา 10,000 กำลังสวย ''เอเซอร์'' ย้ำเล็ก-บางเบา ส

เน็ตบุ๊กยอดทรงตัวรอลุ้น3จี มาตรฐาน 10 นิ้วแรงออกตัวราคา 10,000 กำลังสวย ''เอเซอร์'' ย้ำเล็ก-บางเบา ส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กระแสเน็ตบุ๊กครึ่งปีหลังทรงตัว อัสซุส ชี้มาตรฐานตลาดอยู่ที่หน้าจอ 10 นิ้ว ใช้ฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูล ระบุสินค้าใหม่เน้นบางเบา-รองรับ 3 จี ขณะที่เอเซอร์ เผยโรดแมปสินค้าครึ่งปีหลังรองรับ 3 จี ชิมลางจับมือโอเปอเรเตอร์ ร่วมทำตลาดจังหวัดนำร่องทดสอบ 3 จี

นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัทอัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ตลาดคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก หรือ เน็ตบุ๊ก ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเดิมช่วงต้นปีมองว่าตลาดมีการชะลอตัวลงไป เนื่องจากคอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน้ตบุ๊ก มีราคาลดลงมาใกล้เคียงกับเน็ตบุ๊ก อย่างไรก็ตามขณะนี้ยอดการซื้อขายเน็ตบุ๊กเริ่มกลับมาสู่ยอดขายปกติ

ซึ่งในครึ่งปีหลังมองว่าเน็ตบุ๊ก จะมีดีไซน์ บางลงและน้ำหนักเบาลง ขณะที่ขนาดหน้าจอที่เป็นมาตรฐานของเน็ตบุ๊ก จะอยู่ที่ขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว จากเดิมมีขนาดหน้าจอหลากหลายตั้งแต่ 9-11 นิ้ว ขณะที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล จะใช้ฮาร์ดดิสก์ ที่มีขนาดความจุ 160 กิกะไบต์เป็นหลัก ส่วนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ Solid State Drive ไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากความจุต่างจากฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก ส่วนราคาของเน็ตบุ๊กในครึ่งปีหลังนั้นคาดว่าจะอยู่ราว 10,000 บาท

โดยในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนนำเน็ตบุ๊ก เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 4 รุ่น อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยโปรดักต์ใหม่ ที่มีดีไซน์ทันสมัย บางเบามากขึ้น ส่วนที่รองรับการใช้งาน 3 จี จะมีเข้ามาทำตลาด ประมาณ 1 รุ่น เนื่องจากไทยยังไม่เปิดให้บริการ 3 จี ขณะเดียวกัน เชื่อว่าการผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกือบทุกรายนำเน็ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดจะทำให้เกิดการกระตุ้นตลาดมากขึ้น ซึ่งในส่วนของอัสซุสนั้นตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดจากปัจจุบัน 30% เป็น 50%

ขณะที่นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการตลาดอาวุโส บริษัทเอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่าตลาดเน็ตบุ๊กครึ่งปีหลังอยู่ในภาวะทรงตัว โดยด้วยรูปลักษณ์ของเน็ตบุ๊กที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มของที่ต้องการเครื่องที่ 2 ที่รองรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่ ซึ่งเอเซอร์ยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดเน็ต

บุ๊กอย่างต่อเนื่อง โดยจัดกลุ่มสินค้าไว้ในกลุ่มโมบิลิตี เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าโมบาย โฟน หรือพีดีเอโฟน

ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาทำตลาดในครึ่งปีหลังนั้นจะรองรับ 3 จี มากขึ้น อย่างไรก็ตามไทยยังไม่มีการให้บริการ 3 จี เชิงพาณิชย์ โดยยังอยู่ในช่วงการทดสอบของผู้ให้บริการเท่านั้น ทำให้บริษัทไม่สามารถนำมาเป็นจุดขายโปรโมตสินค้าได้เต็มที่ แต่ก็จะร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ทำตลาดไปยังจุดที่ให้บริการทดสอบโครงข่าย 3 จี โดยโอเปอเรเตอร์จะเป็นผู้นำเสนอคุณภาพโครงข่าย ขณะที่บริษัทจะนำเสนอในส่วนของสินค้าที่มีความพร้อมอยู่แล้ว

ส่วนยอดขายส่วนเน็ตบุ๊กนั้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 10,000-15,000 เครื่อง โดยยังเชื่อว่ามีส่วนแบ่งเป็นอันดับหนึ่งในตลาด ซึ่งขณะนี้บริษัทวิจัยตลาดไอที อย่างไอดีซี และการ์ทเนอร์ ยังมีการเก็บรวบรวมตัวเลขเน็ตบุ๊ก รวมไปกับโน้ตบุ๊ก แต่ด้วยการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย จะทำให้บริษัทสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดเน็ตบุ๊กแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook