เติมปัจจัย 4 ผู้ลี้ภัย
ในงานเปิดตัวโครงการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้างสรรพสินค้าเซนได้รับเกียรติจาก นายวีรวิชญ์ เธียรชัยนันท์ ผอ.ยูเอสซีอาร์ไอ กล่าวว่า ปัจมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ในค่ายอพยพ 9 แห่ง 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน, ตาก, กาญจนบุรี และราชบุรี จำนวน 140,000 คน ซึ่งรัฐบาลไทยให้อาศัยอยู่ชั่วคราวมานานถึง 30 ปี ซึ่งความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ขาดปัจจัยพื้นฐานของชีวิต
ประเทศไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ดูแลผู้ลี้ภัย คนกลุ่มนี้จึงเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จำกัดพื้นที่อยู่อาศัย ห้ามประกอบอาชีพ เพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงถูกนายทุนหลอกมาทำงาน ผู้หญิงถูกหลอกค้าประเวณี ผู้ชายถูกหลอกขายแรงงาน ซึ่งเป็นปัญหาการค้ามนุษย์อย่างหนึ่งในประเทศไทย ส่วนเด็กขาดการศึกษาตามหลักสูตรมาตร ฐาน จึงอยากวอนให้รัฐบาลเข้ามาดูแล ปรับเปลี่ยนนโยบายแก้ปัญหาจุดนี้
ด้าน ไดอาน่า จงจินตนาการ ทูตผู้ลี้ภัยชาวไทยคนแรก กล่าวว่า เริ่มศึกษาข้อมูลหลังได้รับตำแหน่ง และเดินทางพร้ทีมงานไปดูที่พักพิงชั่วคราว อ.ท่าสองยาง จ.ตาก พบผู้หญิงและเด็กอายุประมาณ 4-5 ขวบจำนวนมาก บางคนเพิ่งหลบหนีเข้ามา ได้ รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด สภาพบ้านเรือนเรียงราย 2 ข้างทางคล้ายอพาร์ตเมนต์ใน กรุงเทพฯ แต่มุงหลัง คาด้วยจาก และในวัดมีเด็กปูผ้านอนพื้นเต็มไปหมด
พยายามไม่เอามาตรฐานความเป็นอยู่ของเราไปเปรียบเทียบ แต่เขาไม่มีอะไรเลยขาดแม้กระทั่งปัจจัย 4 หลังกลับมาค่อย ๆ ย่อยภาพที่เห็นและคิดว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ให้คนเข้าใจตรงนี้มากขึ้น และเมื่อข้อมูลขยายวงกว้าง จะได้ร่วมมือกันช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยต่อไป ทูตผู้ลี้ภัยชาวไทยคนแรกกล่าว.