เตรียมคลอดเกณฑ์ย้ายบิ๊กร.ร.ประถม-มัธยมฯ

นายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) กล่าวว่า จากที่จัดตั้งศูนย์ประสานงานการมัธยมศึกษา จำนวน 41 ศูนย์ ทำให้เกิดการบริหารงานบุคคลที่เป็นปัญหา ดังนั้นคณะกรรมการ ก.ค.ศ. จึงได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. จัดทำแนวทางหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานการมัธยมศึกษา ซึ่งขณะนี้ยกร่างเสร็จแล้ว

ด้านนายสุบรรณ ไชยศิริโชติ ผู้อำนวยการภารกิจระบบตำแหน่งวิทยาฐานะที่ 2 สำนักงาน ก.ค.ศ. กล่าวว่า เมื่อมีการแยกการบริหารงานการประถมศึกษาและมัธยมศึกษาออกจากกัน ในส่วนของการโยกย้ายผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ต่อไปก็จะต้องแยกออกจากกันอย่างชัดเจนระหว่าุ่มมัธยมศึกษา และกลุ่มประถมศึกษา โดยเมื่อโยกย้ายภายในกลุ่มตัวเองเสร็จแล้ว จึงจะย้ายข้ามกลุ่มได้ ซึ่งต่างจากเดิมที่สามารถย้ายรวมกันได้

อย่างไรก็ตามหลักการในการพิจารณาย้ายผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น จะยังคงเป็น 3 กรณี แต่จะเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดบางประการ ดังนี้

1. กรณีย้ายปกติ จากเดิมภายใน 1 ปี สามารถยื่นได้ 2 ครั้ง คือ วันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ กับวันที่ 1-15 สิงหาคม ก็จะปรับเปลี่ยนหลักการใหม่ว่าให้ยื่นได้ครั้งเดียว คือ วันที่ 1-15 สิงหาคม

ดังนั้นผู้ที่ต้องการย้ายปกติ ก็จะต้องทำเรื่องขอยื่นภายในช่วงเวลาดังกล่าว และจะใช้คำขอนี้มาพิจารณาได้ตลอดทั้งปี โดยในการย้ายกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนมัธยมฯ นั้น จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ขึ้นมาพิจารณา ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ ปลายทาง พิจารณาเห็นชอบ

ส่วนการโยกย้ายกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนประถมฯ นั้น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ สามารถพิจารณาโยกย้ายได้เลย แต่ทั้งนี้อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะต้องนำความเห็นของหน่วยงานต้นสังกัดที่รับย้าย มาประกอบการพิจารณาด้วย

2.กรณีย้ายกรณีพิเศษ เช่น ขอย้ายตามคู่สมรส ขอย้ายกลับภูมิลำเนา ขอย้ายไปดูแลบิดามารดาที่เจ็บป่วย เป็นต้น และ

3. กรณีย้ายเพื่อประโยชน์ทางราชการ ทั้ง 2 กรณีดังกล่าว ยังคงยึดตามหลักการเดิม โดยพิจารณาโยกย้ายแบบไม่แยกกลุ่มมัธยมฯ และกลุ่มประถมฯ