ส.ข.ปชป.รับเสนอชุมชนพอเพียงให้เลือกตู้น้ำ-เครื่องทำปุ๋ย ปราจีนฯแฉอ้างพรรคใหญ่ปลอมเอกสาร

ส.ข.ปชป.รับเสนอชุมชนพอเพียงให้เลือกตู้น้ำ-เครื่องทำปุ๋ย ปราจีนฯแฉอ้างพรรคใหญ่ปลอมเอกสาร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ส.ข.ปชป.บางกะปิยอมรับเอาเอกสารโครงการชุมชนพอเพียงให้27ปธ.ชุมชน ให้เลือกระหว่างตู้น้ำ-เครื่องผลิตปุ๋ย ปัดข่มขู่โยกงบ ปราจีนฯให้การป.ป.ช.แฉถูกคนอ้างพรรคใหญ่ปลอมเอกสารขอตู้เลี้ยงปลา ความคืบหน้ากรณีนายสมจิต สอนเขียว ประธานชุมชนสามัคคีพัฒนา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) พรรคการเมืองใหญ่ เป็นผู้ผลักดันให้ชุมชนจัดซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญพลังงานแสงอาทิตย์ และเครื่องผลิตปุ๋ย ในโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาคม และไม่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ตามที่ มติชน ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายพงษ์ศักดิ์ วุฒิชัย ส.ข.เขตบางกะปิ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีงบประมาณอุดหนุนให้ชุมชนเป็นปีแรกเหมือนจังหวัดอื่นๆ เมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์กับชุมชน จึงได้นำเอกสารจากสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาชุมชน (สพช.) มาให้ประธานชุมชนในเขตบางกะปี ทั้ง 27 ชุมชน เพื่อดูว่าชุมชนใดต้องการความช่วยเหลืออะไร ในแบบฟอร์มของ สพช.มีรายละเอียดให้เลือก 2 อย่าง คือ 1.ตู้น้ำหยอดเหรียญโซลาร์เซลล์ 2.เครื่องผลิตปุ๋ยและก๊าซชีวภาพ มี 24 ชุมชนเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการไป แต่มีเพียง 3 ชุมชน คือ 1.ชุมชน 101 บึงทองหลาง 2.ชุมชนสวนสน 3.ชุมชนหมู่บ้านเสรี เลือกไม่รับสิ่งของใดๆ เลย โดยให้เหตุผลว่าสิ่งของที่เสนอมานั้นไม่ใช่สิ่งที่ชุมชนต้องการ

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวถึงกรณีประธานชุมชนวัดกลาง เขตบางกะปิ ให้ข่าวมีนักการเมืองข่มขู่ชุมชนวัดกลางหากไม่รับตู้น้ำหยอดเหรียญจะถูกโยกงบฯไปให้ชุมชนอื่นว่า ไม่เป็นความจริง เพราะมีการตั้งงบฯให้อยู่แล้วตามแบบฟอร์มที่ชุมชนได้เสนอมา

ผมเป็นตัวแทนประชาชน กินเงินภาษีประชาชน ในเมื่อมีโครงการดีๆ มีประโยชน์กับชุมชนก็นำมาบอกต่อ ไม่บีบบังคับให้รับอะไรทั้งสิ้น ชุมชนใดอยากได้อะไรก็เขียนเสนอมา ชุมชนใดไม่อยากได้ก็ไม่ได้ขอมา แต่ที่ประธานชุมชนวัดกลางออกมาให้ข่าวนั้นรู้สึกงงมาก ผมทราบมาว่าเขาเตรียมจะลงเลือกตั้ง ส.ข.ในเดือนสิงหาคม 2553 นอกจากนี้ประธานชุมชนวัดกลางยังมีเครือญาติทำธุรกิจน้ำดื่มบรรจุถังขายในชุมชนอยู่แล้ว ไม่แน่ใจว่าการร้องเรียนเรื่องตู้น้ำจะไปขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือไม่ นายพงษ์ศักดิ์ตั้งข้อสังเกต

นายโชคชัย อักษรศิริ ส.ข.เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องการเรื่องเสนอโครงการชุมชนพอเพียงในพื้นที่ดังกล่าว แต่ก่อนที่เรื่องนี้จะเป็นข่าวขึ้นมา เคยเห็นตู้น้ำหยอดเหรียญโซลาร์เซลล์ และเครื่องผลิตปุ๋ยและก๊าชชีวภาพตั้งอยู่ในชุมชนมานานแล้ว สอบถามคนในชุมชนว่าได้มาจากไหน ชุมชนแจ้งว่าได้จาก ส.ข.รายหนึ่งซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าว ความจริงๆ แล้วโครงการชุมชนพอเพียงควรเป็นหน้าที่ของ ส.ส.มากกว่าไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ข.มาดำเนินการเอง

ทางด้านนายสมชาย ศรีสุข อายุ 56 ปี กรรมการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียง ชุมชนรุ่งเจริญ ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งประสบปัญหาแบบเดียวกับที่ กทม.กล่าวภายหลังเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ได้เล่าความเป็นมาโครงการชุมชนพอเพียงนับจากการตั้งคณะกรรมการชุมชน และการประชาคมเลือกโครงการเลี้ยงปลา ต่อมามีนักการเมืองท้องถิ่นและบุคคลอ้างเป็นตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่เข้ามาเสนอโครงการตู้น้ำอ้างว่าเป็นโครงการหาเสียงให้ฟรี ไม่เกี่ยวกับโครงการที่ชุมชนขอไป แต่ความจริงแล้วกลับให้กรรมการชุมชนผู้หนึ่งปลอมแปลงเอกสารคำขอโครงการโดยบรรจุโครงการจัดซื้อตู้น้ำไปแทนโครงการเลี้ยงปลา จึงขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีกับผู้ปลอมแปลงเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.แจ้งว่าจะประสานกับ จ.ปราจีนบุรี ช่วยสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนกรณีเทศบาลตำบลเมืองเก่าประกาศจะดำเนินคดีกับประชาชนและสื่อมวลชนนั้น นายสมชายกล่าวว่า ไม่เคยกลัว เพราะเป็นข้อเท็จจริง เรื่องนี้มั่นใจเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใหญ่แน่นอน แต่ขอให้เป็นเรื่องการสอบสวนของบ้านเมือง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook