มหาสารคามป้อมแตก! พบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรก น่าห่วงเคยเป็นมะเร็ง เบาหวาน ไวรัสตับ

(28 มี.ค.63) ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ COVID-19 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานแถลงข่าว เรื่อง สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ล่าสุดพบว่า ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ ยืนยันมีผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามแล้ว 1 ราย

นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า สาธารณสุขจังหวัด ได้รับแจ้งวันที่ 26 มีนาคม 2563 ว่ามีผู้ป่วยจากโรงพยาบาลบาลพยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งผู้ป่วยเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยโรค เข้าข่าย PUI หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีอาการอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ จากการสอบถามพบผู้ป่วยเป็น ชายสัญชาติไทย อายุ 48 ปีทำงานเป็นนักดนตรีที่ กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้าน อยู่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะป่วยอยู่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ผ่าตัดแล้ว ให้เคมีบำบัดครบแล้ว และไวรัสตับอักเสบ เคยรักษาที่โรงพยาบาลตากสิน กรุงเทพมหานคร

ด้าน นายแพทย์ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เปิดเผยว่า ในส่วนการรักษา ผู้ป่วยได้รับการเอกซ์เรย์ปอดทีโรพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย พบว่าปอดมีอาการติดเชื้อทั้ง สองข้าง เข้าได้กับอาการโรด ปอดบวม จึงทำเพาะเชื้อ ต่อมาผู้ปวยมีอาการหอบมากขึ้น จึงได้ทำการส่งต่อมาโรงพยาบาลมหาสารคาม ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 เวลา 14.25 น. ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ผู้ป่วยมีอาการหอบและมีไข้ อุณหภูมิ 39 องศาเซลเซียส แพทย์ได้สั่งนอนในตึกเฉพาะโรค รักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อ ใส่สายออกซิเจน ผู้ป่วยมีความดันโลหิตปกติ และความดันคงที่ ในเช้าวันที่ 27 มีนาคม 2563 ผู้ป่วยมีอาการหอบมากขึ้น แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใช้เครื่องช่วยหายใจ และได้ให้ยานอนหลับและยาคลายกล้ามเนื้อ

นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เพิ่มเติมว่า จากนี้จะมีการเข้มงวดการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัด และให้หน่วยงานสาธารณสุขเตรียมการรับมือทั้งด้านบุคลากร เวชภัณฑ์ และสถานที่รับรักษาผู้ป่วย ที่ห่างจากพื้นที่ปกติ ทั้งนี้หากมีผู้ป่วยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เตรียมใช้วิธีการปิดตึกผู้ป่วยบางจุดในโรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลชุมชน เพื่อกักกันโรคและไม่ให้ประชาชนวิตกกังวล และที่สำคัญคือ ขอความร่วมมือประชาชนทกุคน ตื่นตัว และรับผิดชอบต่อสังคม อยู่ บ้านให้มากที่สุด งดไปพื้นที่คนแออัด ตลอดจนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเท่านั้น อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทางที่ได้รับมา เน้นหลัก “ เช็คก่อนแชร์” เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน