สศก.แย้มข้าวขาวไม่ต่ำหมื่น-หอมมะลิ1.5หมื่น ลั่น2สัปดาห์เคาะราคาประกันนาปี
อย่างไรก็ตาม สศก.ได้ประสานกับกรมการข้าวให้เร่งจัดประชุมหารือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 2 สัปดาห์นี้ทั้งสมาคมชาวนาไทย โรงสี และผู้ส่งออก กำหนดราคาประกันที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ให้ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน จากนั้นจึงจะประกาศราคาประกันออกมา โดยการประกาศราคาประกันนั้นจะแยกเป็นชนิดของข้าว เช่น ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า ข้าวหอมมะลิ เป็นต้น และจะลดทอนไปตามความชื้นและสิ่งเจือปน ซึ่งตรงจุดนี้มีสูตรมาตรฐานในการคำนวณอยู่แล้วว่าจะลดทอนลงไปตามความชื้นและสิ่งเจือปนในสัดส่วนเท่าไหร่
ตามหลักการราคาประกันจะเป็นราคาที่ให้เกษตรกรอยู่ได้ ไม่ขาดทุน เมื่อเกษตรกรลงทุนไปแล้วควรได้ผลตอบ แทนแบบไม่ต้องเดือดร้อน ราคาตลาดที่เกษตรกรขายได้หากต่ำกว่าราคาประกัน รัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้ ในเบื้องต้นราคาประกันสำหรับข้าวเปลือกเจ้าจะไม่ต่ำกว่าตันละ 10,000 บาท ขณะที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ประมาณตันละ 14,000-15,000 บาท แต่ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าจะตกลงกันที่ราคาแน่นอนตันละเท่าไร่ โดยราคาจะคิดคำนวณใหม่ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละฤดูกาลผลิต รวมถึงต้องมีการกำหนดเพดานด้วยว่าให้เกษตรกรประกันราคาได้รายละไม่เกินกี่ตัน เช่นอาจจะอยู่ที่ 10 ตันเป็นต้น เพราะจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย นายอภิชาตกล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะเสร็จภายใน 2 เดือนโดยเกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียน 2 รอบคือ รอบแรกเป็นการทำฐานข้อมูลทั่วประเทศสำหรับพืชทุกชนิดเรียกว่าทบก.01 รอบที่สองสำหรับการขึ้นทะเบียนปลูกพืชเศรษฐกิจหรือทพศ. เพื่อรับสิทธิ์เข้าโครงการประกันราคา หากไม่ขึ้นทะเบียนทั้ง 2 แบบจะไม่ได้รับสิทธิ์เข้าโครงการประกันราคา เบื้องต้นมีพืช 3 ชนิดที่ใช้นโยบายประกันราคา คือข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด