คลังจัดมหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤต กระตุ้นศก. 3 จังหวัดชายแดนใต้ 23-29ก.ค.

คลังจัดมหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤต กระตุ้นศก. 3 จังหวัดชายแดนใต้ 23-29ก.ค.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้(23ก.ค.2553)นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤตภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ณ โรงแรมซี.เอส. จังหวัดปัตตานี ซึ่งกระทรวงการคลังร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ 7 สถาบัน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 23 - 29 กรกฎาคม 2552 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการทางการเงินและสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพ การลงทุน ที่อยู่อาศัย อุปโภคบริโภค รวมทั้งบริการประกันสินเชื่อ ภายใต้ข้อเสนอพิเศษ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงที่จะต้องได้รับการแก้ไขฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบไม่เพียงแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ยังรวมถึงปัญหาความไม่สงบนพื้นที่ด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลมีเจตนาที่แน่วแน่ที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการส่งเสริมให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และการประกอบอาชีพ ซึ่งรวมถึงการบริโภคของประชาชนด้วย

งาน มหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤตภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง ที่กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินของรัฐ 7 แห่ง ได้ร่วมมือกันจัดขึ้น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง ในอันที่จะช่วยกันกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในงานนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะมีโอกาสได้รับบริการทางการเงินและสินเชื่อต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ การลงทุนในธุรกิจ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมทั้งการจัดหาที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต

พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นับว่าเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพในหลายๆ ด้านเช่น ด้านการท่องเที่ยว ด้านการผลิตอาหารเพื่อการส่งออกนอก ฯลฯ และมีผลผลิตทางเกษตรหลายอย่างที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยางพาราที่มีคุณภาพ ผลไม้ชนิดต่างๆ และผลิตผลจากการประมง ดังนั้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การมีแหล่งทุน และนโยบายที่ชัดเจนของภาครัฐ จะนำไปสู่การพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้ประกอบการ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่และทุกภูมิภาคของประเทศ และที่สำคัญการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

เชื่อว่าสถาบันการเงินที่ร่วมในการจัดงานครั้งนี้จะมีบริการทางการเงินอื่นๆ มาเสนอต่อพี่น้องด้วย ซึ่งในการประกอบอาชีพหรือการดำเนินธุรกิจนอกจากความพร้อมทางด้านการผลิต และการตลาดแล้ว ความพร้อมทางด้านเงินทุนก็เป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ ดังนั้น การมีสถาบันการเงินที่พร้อมให้บริการด้านการเงินและสินเชื่อในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน รมว.คลังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook