สาธารณสุข แสดงละครโควิด-19 สาธิตวิธีอยู่ห่างกันที่บ้าน เผยยังเวิร์กฟรอมโฮมแค่ 40%

สาธารณสุข แสดงละครโควิด-19 สาธิตวิธีอยู่ห่างกันที่บ้าน เผยยังเวิร์กฟรอมโฮมแค่ 40%

สาธารณสุข แสดงละครโควิด-19 สาธิตวิธีอยู่ห่างกันที่บ้าน เผยยังเวิร์กฟรอมโฮมแค่ 40%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงสาธารณสุขแสดงบทบาทสมมติระหว่างการแถลงข่าววันนี้ (1 เม.ย.) หวังให้ผู้ชมการแถลงเข้าใจง่ายถึงวิธีการอยู่ห่างกัน (Social Distancing/โซเชียล ดิสแตนซิง) ที่บ้านของประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19)

การแสดงดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการล้างมือของนักแสดงหญิง ที่เป็นพนักงานของกระทรวง จากนั้นตัวละครชาย ซึ่งเป็นพนักงานของกระทรวงเช่นกัน ก็เข้ามาในบ้าน และล้างมือ จากนั้นก็ร่วมรับประทานอาหารกัน โดยอยู่คนละมุมโต๊ะ เพื่อให้อยู่ห่างกัน 1-2 เมตร และใช้ช้อนกลางตักอาหาร

อยู่ห่างกันที่บ้าน "ต้องทำ"

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เผยว่าการอยู่ห่างกันนี้ "ต้องทำ" ไม่ใช่แค่ควรทำ เพราะถ้าหากไม่ทำ ก็จะพบผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น จนระบบสาธารณสุขอาจรองรับไม่ไหว และแม้ว่าจะต้องทำเป็นระยะเวลานานก็ต้องทำ 

ด้านแพทย์หญิงปฐมพร ศิรประภาศิริ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวในการแถลงเดียวกันนี้ว่า การอยู่ห่างกันเป็นเรื่องจำเป็นในห้วงเวลานี้ ซึ่งไม่ใช่ไทยแค่ประเทศเดียว แต่ทั้งโลกก็ใช้มาตรการคล้ายกันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ที่ตำรวจสลายการชุมนุมต่อต้านผู้อพยพ หรือที่แอฟริกาใต้ที่ตำรวจต้องใช้แส้ฟาดคนที่ออกมาชุมนุม

ปลื้มคนไทยให้ความร่วมมือ

อธิบดีกรมสุขภาพ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์ระจิต เผยว่า ถ้าคนไทยช่วยกันอยู่ห่างกัน 80% กลางเดือนนี้คาดว่าจะมีผู้ป่วยยืนยันในประเทศราว 7,700 คน แต่ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยในไทยน้อยกว่าอัตราดังกล่าวมาก แปลว่าคนไทยให้ความร่วมมือกับมาตรการนี้อย่างดี มากกว่า 80%

วอนออฟฟิศให้พนักงานทำงานที่บ้านมากขึ้น

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวเสริมว่า นอกจากการอยู่ห่างกัน มาตรการอื่นก็จำเป็นอย่างเช่นการทำงานที่บ้าน (Work from Home/เวิร์กฟรอมโฮม) การปิดสถานที่ต่างๆ และการจัดระเบียบการใช้ขนส่งสาธารณะ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ผ่านการไตร่ตรองมาแล้วอย่างดี เพราะกังวลว่าถ้าไม่ทำอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็อยากให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐต่อไป

อธิบดีกรมอนามัยรายนี้ เผยว่า ขณะนี้ 40% ของบริษัทและสำนักงานต่างๆ ให้พนักงานทำงานจากบ้านแล้ว แต่กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าไว้มากกว่า 60% จึงอยากให้สำนักงานให้ความร่วมมือมากกว่านี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook