"อาจารย์เจษฎา" ยันยังไม่มีหลักฐาน โควิด-19 แพร่ผ่านอากาศได้ จากเคสนักร้องประสานเสียง

"อาจารย์เจษฎา" ยันยังไม่มีหลักฐาน โควิด-19 แพร่ผ่านอากาศได้ จากเคสนักร้องประสานเสียง

"อาจารย์เจษฎา" ยันยังไม่มีหลักฐาน โควิด-19 แพร่ผ่านอากาศได้ จากเคสนักร้องประสานเสียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี เฟซบุ๊กเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โพสต์ข้อความ ระบุว่า มีข้อมูลล่าสุดสนับสนุนว่าผู้ป่วยโควิด-19 ระยะฟักตัวสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ airborne transmission ไม่ต่างจากวัณโรค ขณะร้องเพลงร่วมกับผู้อื่น

สื่ออเมริกาลงข่าว กลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่งที่รัฐวอชิงตัน จำนวน 45 คนจาก 60 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิต 2 คนภายใน 3 สัปดาห์ ทั้งที่ทุกคนที่มาร้องเพลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง วันที่ 10 มี.ค. ไม่มีใครไอ ไม่มีใครป่วย พวกเขาป้องกันตัวเองทุกอย่าง ล้างมือ ยืนรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร ไม่แตะตัวหรือแตะต้องสิ่งของอะไร

แต่ปรากฏว่าเมื่อสมาชิกนักร้องกลุ่มนี้แยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนเริ่มไม่สบายจนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 45 คน และป่วยเสียชีวิตไป 2 คน แสดงว่าขณะที่คนที่อยู่ในระยะฟักตัว ร้องเพลงเปล่งเสียงสูงออกมามีละอองฝอย (droplet nuclei) ฟุ้งกระจายออกมา เป็นละอองฝอยขนาดเล็ก ไม่ใช่น้ำลายหรือเสมหะ ละอองเล็กขนาดต่ำกว่า 5 ไมครอน ล่องลอยไปในอากาศ ทำให้คนที่อยู่ห่างออกไปไกลๆ ก็ติดเชื้อได้ ไม่ใช่จากการไอจามรดกัน การสัมผัสเนื้อตัวหรือสิ่งของร่วมกันเท่านั้น

ซึ่งต่อมาเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์  ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์ระบุว่า "ยังไม่มีหลักฐานว่า เชื้อโรคโควิด-19 แพร่ผ่านอากาศแบบ airborne แล้วนะครับ" 

วันนี้มีการเผยแพร่ข้อมูล ที่อ้างว่ามาจากเพจแฟนคลับของคุณหมอมนูญ ในทำนองว่า "เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 นั้นสามารถแพร่กระจายในอากาศได้นานหลายชั่วโมง ในแบบ airborne เหมือนกับเชื้อของโรควัณโรค" ... ทำเอาผู้คนในสังคมไทย แตกตื่นกันหมด เพราะไม่เห็นตรงกับที่หลายฝ่ายบอกว่า เชื้อนี้กระจ่ายผ่านละอองน้ำลายไม่ใช่หรอ? อย่างนี้ก็น่ากลัวมากสิ

สมมติฐานดังกล่าว มาจากกรณีการติดเชื้อไวรัสเป็นจำนวนมาก (กว่า 45 คนจาก 60 คน แสดงอาการคล้ายจะเป็นโรค และในจำนวนนั้น 28 คนถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ ) หลังการซ้อมใหญ่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ของคณะนักร้องประสานเสียงแห่งโบสถ์ Mt. Vernon Presbyterian Church ที่ Skagit County รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน (อยู่ในวัยประมาณ 80 ปี) ทั้งที่เหมือนจะมีการเฝ้าระวัง ป้องกันการติดต่อของเชื้ออย่างดีแล้ว เช่น ให้ฆ่าเชื้อที่มือก่อนเข้า ยืนอยู่ห่างกันระหว่างซ้อม ใช้สมุดโน๊ตเพลงของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการจับมือหรือกอดกันหลังจากการซ้อมกว่า 2 ชั่วโมงนั้นเสร็จลง แค่เวลาผ่านไปสัปดาห์หนึ่ง ก็มีรายงานว่าสมาชิก 3 ใน 4 ของวงเริ่มมีอาการป่วย ในแบบที่แตกต่างกัน บางคนกฝเป็นไข้บางคนก็ไม่เป็น บางคนไอบางคนไม่ไอ บางคนมีอาการแค่เริ่มไม่ได้กลิ่นและรส ซึ่งบางคนก็หายจากอาการดังกล่าวภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน

คุณหมอ Howard Liebrand เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำ Skagit County ให้ความเห็นว่า แม้คณะนักร้องจะพยายามอยู่ห่างกันแล้วก็ตาม ระหว่างที่ซ้อม แต่การร้องเพลงประสานเสียง ซึ่งต้องอ้าปากกว้างและโปรเจคต์เสียงของคุณให้พุ่งออกไปนั้น (สังเกตวิธีการยืนร้องแบบครึ่งวงกลมของนักร้องประสานเสียง ในรูปประกอบ) แน่นอนว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ละอองน้ำลายแพร่กระจายเชื้อโรคไปได้

คุณหมอ Leibrand ให้ความเห็นด้วยว่า เรื่องนี้คล้ายคลึงกับคนสองคนจะแพร่เชื้อใส่กันด้วยการพูดสนทนากัน แต่การแพร่ระบาดในหมู่นักร้องประสานเสียงช่วงนี้ ยังไม่เป็นหลักฐานยืนยันว่า เป็นผลจากการแพร่กระจายของไวรัสผ่านละอองฝอยในอากาศ (aerosol) หรือไม่สรุปคือ กรณีการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในหมู่คณะนักร้องประสานเสียงนี้ ไม่ได้เป็นหลักฐานยืนยันสมมติฐานเรื่องที่เชื้อแพร่กระจายแบบ airborne ไปในอากาศแบบเชื้อวัณโรคแต่อย่างไรโดยเชื้อยังน่าจะยังคงแพร่กระจายผ่านละอองน้ำลาย ระหว่างสมาชิกที่ไปซ้อมและร้องเพลงออกมา มากกว่าครับ

"สรุปคือ กรณีการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในหมู่คณะนักร้องประสานเสียงนี้ ไม่ได้เป็นหลักฐานยืนยันสมมติฐานเรื่องที่เชื้อแพร่กระจายแบบ airborne ไปในอากาศแบบเชื้อวัณโรคแต่อย่างไรโดยเชื้อยังน่าจะยังคงแพร่กระจายผ่านละอองน้ำลาย ระหว่างสมาชิกที่ไปซ้อมและร้องเพลงออกมา มากกว่าครับ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook