ปินส์ล้างโจรใต้

ปินส์ล้างโจรใต้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อไม่มีตัวประกันสำคัญให้ต้องกังวล ตอนนี้กองทัพฟิลิปปินส์สั่งทหารเดินหน้าเต็มพิกัด หวังกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอาบู ไซยาฟ ให้สิ้นซาก โดยตั้งเป้าภายในไม่เกินสิ้นปี โจรกลุ่มนี้จะเหลือแต่ชื่อ

ที่ผ่านมาอาบู ไซยาฟทำให้กองทัพรัฐบาลมะนิลาเสียหน้าอย่างหนัก เนื่องจากกำลังพล 120,000 นาย ส่งไปปราบหลายพันนาย แต่ทำอะไรอาบู ไซยาฟ ไม่ได้ถนัด แม้ว่าล่าสุดจะเหลือสมาชิกอยู่แค่ 300-400 คน เพราะติดขัดที่ตัวประกัน ที่สำคัญเป็นตัวประกันชาวต่างชาติเสียด้วย

กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ มีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน กลุ่มแรกคือแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (เอ็มเอ็นแอลเอฟ) ก่อตั้งเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน และกลุ่มที่สอง แนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (เอ็มไอแอลเอฟ) สมาชิกบางส่วนแยกตัวออกมาจากกลุ่มแรก ก่อตั้งเมื่อปี 2524

สองกลุ่มนี้มีเป้าหมายเดียวกันคือ จับ อาวุธต่อสู้กับรัฐบาลมะนิลา เพื่อแยกดินแดนภาคใต้เป็นรัฐเอกราช ซึ่งภาคใต้ฟิลิปปินส์ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม โดยส่วนที่เหลือของประเทศประชาชนเป็นชาวคริสต์

ชาวฟิลิปปินส์ทั้งประเทศนับถือคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกถึง 81% และนับถือศาสนาอิสลาม 5% ส่วนที่เหลือเป็นพุทธ ฮินดู และอื่น ๆ

ช่วงหลังกลุ่มแรกบทบาทลดน้อยถอยลงไปมาก ผิดกับกลุ่มหลังที่ยังเหนียวแน่น ยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลมาได้จนถึงปัจจุบัน

กลุ่มที่สามอาบู ไซยาฟ เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2534 กลุ่มนี้มีลักษณะกึ่งโจรปล้นจี้ธรรมดาทั่วไปกับโจรก่อการร้าย จับคนเรียกค่าไถ่เป็นงานหลัก โดยเหยื่อเป็นชาวคริสต์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ภาคใต้ และชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีน ซึ่งส่วนใหญ่นับถือพุทธ

ฐานใหญ่ของ 2 กลุ่มแรกอยู่บนเกาะมินดาเนา เกาะใหญ่ของภาคใต้ ส่วนฐานอาบู ไซยาฟ อยู่บนเกาะโจโลและเกาะบาสิลัน เกาะขนาดเล็กทางตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ไม่ไกลจากรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวของมาเลเซีย

ทั้งสามกลุ่มแม้จะปฏิบัติการแบบทางใครทางมัน แต่มีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ มีส่วนเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อการร้ายหมายเลข 1 ของโลก อัล-เคดา

อาบู ไซยาฟ แม้จะเน้นไปในทางลักพาตัวเรียกค่าไถ่เป็นหลัก แต่ดูจากเหยื่อเป้าหมาย จะเห็นว่าเป็นการกำจัดคนนอกศาสนาในพื้นที่ไปในตัว

นายกิลเบิร์ต ธีโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ สั่งเสริมกำลังบุกลุยโจรอาบู ไซยาฟ บนเกาะโจโลและเกาะบาสิลันครั้งใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอาบู ไซยาฟ ปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติคนสุดท้าย นายยูจีนิโอ วายี ชาวอิตาลีวัย 62 ปี เมื่อ 12 ก.ค.

วายีเป็นเจ้าหน้าที่กาชาดสากล ถูกลักพาตัวบนเกาะโจโลเมื่อเดือน ม.ค. พร้อมกับเพื่อนคนงานอีก 2 คน ชาวสวิสและชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกปล่อยตัวก่อนหน้านี้แล้ว

โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์บอกว่า อาบู ไซยาฟกำลังประสบปัญหากำลังคน จากเดิมเท่าที่ประเมินมีอยู่ราว 700 คน ตอนนี้เหลือไม่ถึง 400 คน แม้จะหาสมาชิกใหม่ได้บ้าง แต่ก็เป็นประเภทด้อยคุณภาพ เป็นพวกคนหนุ่มตกงานในชนบท อาบู ไซยาฟใช้วิธีล่อลวงด้วยคำสัญญาจะให้เงินและอาวุธปืน

ข่าวกรองทางการยังทราบอีกว่า ช่วงหลังระดับหัวโจกของอาบู ไซยาฟที่เหลือ เกิดแตกคอกันเองอย่างรุนแรง

การกวาดล้างครั้งนี้ อีกเป้าหมายคือการล่าตัว 3 แกนนำคนสำคัญของกลุ่มหรือเจไอ เครือข่ายก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอัล-เคดา ได้แก่นายอูมาร์ ปาเต็ค กับนายดัลมาร์ติน ชาวอินโดนีเซีย และนายมาอูวิยา ชาวสิงคโปร์ ซึ่งข่าวกรองชี้ชัดว่าหนีไปอยู่กับ อาบู ไซยาฟอยู่บนเกาะโจโลนานแล้ว

2 คนแรกเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ระเบิด โจมตีย่านสถานบันเทิงบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียเมื่อปี 2545 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 202 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวออสเตรเลีย

เป้าหมายแรกน่าจะไม่ยาก เผลอ ๆ อาจสำเร็จภายในเดือนหรือสองเดือนนี้ แต่เป้าหมายหลังน่าสงสัย ไม่แน่ว่าป่านนี้ 3 หัวโจกเจไออาจจะเผ่นหนีไปซุกปีกเอ็มไอแอลเอฟบนเกาะใหญ่มินดาเนาแล้ว.

เลนซ์ซูม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook