ไทยเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 23 ราย! ป่วยเพิ่มอีก 102 รวมติดเชื้อสะสม 2,169 ราย

ไทยเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 23 ราย! ป่วยเพิ่มอีก 102 รวมติดเชื้อสะสม 2,169 ราย

ไทยเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 23 ราย! ป่วยเพิ่มอีก 102 รวมติดเชื้อสะสม 2,169 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.  นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า

ล่าสุด ข้อมูลในวันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 102 คน รวมผู้ป่วยสะสม 2,169 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย

ผู้เสียชีวิตรายแรก ผู้ป่วยชายไทยวัย 46 ปี อาชีพรับจ้าง กลับมาจากประเทศอังกฤษ เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ด้วยอาการไข้ มีอาการไอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เม.ย.

ผู้เสียชีวิตรายที่สอง ผู้ป่วย สัญชาติสวิส อายุ 82 ปี โรคประจำตัวคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีประวัติเสี่ยงคือ ไปร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้านที่หัวหิน และบาร์ย่านสุขุมวิท กระทั่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 2 เม.ย.

ผู้เสียชีวิตรายที่สาม ชายไทยอายุ 30 ปี อาชีพก่อสร้าง มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ ทำงานที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีอาการไอ อาเจียนเป็นเลือด เหนื่อยหอบ มีไข้ กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล พบว่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 4 เม.ย.

สรุปแล้ววันนี้ ผู้ป่วยกลับบ้านได้เพิ่ม 31 ราย รวมหายแล้ว 674 ราย รักษาตัวอยู่ รพ. 1,472 ราย เสียชีวิตแล้วรวม 23 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,169 ราย

สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยโควิด-19 ในไทย ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 102 วันนี้แบ่งเป็น

1. สัมผัส/เกี่ยวข้องผู้ป่วยก่อนหน้า 48 ราย

1.1 กลุ่มสถานบันเทิง 2 ราย
1.2 พิธีกรรมทางศาสนา 2 ราย
1.3 สัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อ 44 ราย (ส่วนใหญ่คือ กทม. 14 ราย ภูเก็ต 8 ราย สมุทรปราการ 6 ราย)

2. กลุ่มผู้ป่วยใหม่ 42 ราย

2.1 คนไทยกลับจากต่างประเทศ 13 ราย (กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ส่วนใหญ่กลับจากอังกฤษ)
2.2 คนต่างชาติมาจากต่างประเทศ 1 ราย
2.3 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย
2.4 ไปสถานที่แออัด 5 ราย
2.5 อาชีพกลุ่มเสี่ยง 19 ราย
2.6 บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย (บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโดยตรง)

3. กลุ่มรอสอบสวนโรคเพิ่มเติม 12 ราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook