สธ.เสนอ 7 กลุ่มหมอ-พยาบาล-คนท้อง-มีโรคประจำตัว-นร.เล็ก-วัยกลางคน-ชราได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนหวัด09ก่อน

สธ.เสนอ 7 กลุ่มหมอ-พยาบาล-คนท้อง-มีโรคประจำตัว-นร.เล็ก-วัยกลางคน-ชราได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนหวัด09ก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานฯ ได้กำหนดกลุ่มผู้ที่มีความสำคัญจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติที่จะประชุมกันในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ต่อไป แต่เบื้องต้นหลายฝ่ายเห็นด้วยกับการแบ่งกลุ่มดังกล่าว

แบ่งไว้ทั้งหมด 7 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มบุคลากรทางด้านสาธารณสุขตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกคือ ซึ่งกลุ่มถัดๆมาเป็นกลุ่มที่ในส่วนของแต่ละประเทศได้พิจารณาจากข้อมูลสถานการณ์การระบาดของแต่ละประเทศเอง

กลุ่มที่ 2 กลุ่มหญิงตั้งครรภ์

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคปอด รวมถึงโรคหอบหืด หลอดลมอุดตันด้วย โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน และ โรคธาลัสซีเมีย

กลุ่มที่ 4 นักเรียน อายุ 6-15 ปี ครอบคลุมนักเรียนระดับเล็ก ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น

กลุ่มที่ 5 ประชาชนอายุตั้งแต่ 15-49 ปี ซึ่งอาจรวมถึงนักเรียนโต ตั้งแต่มัธยมศึกตอนปลายถึงระดับมหาวิทยาลัยและวัยแรงงาน จนวัยกลางคน

กลุ่มที่ 6 ประชาชนอายุ 49-65 ปี และ

กลุ่มที่ 7 ประชาชนอายุ 65 ปีขึ้นไป

"สาเหตุที่มีการจัดลำดับหญิงตั้งครรภ์ไว้ลำดับแรกๆ เนื่องจากว่ามีการพบผู้เสียชีวิตที่ตั้งครรภ์ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก และการที่เน้นในกลุ่มของนักเรียนระดับเล็กมาก่อน เพราะจากข้อมูลในการแพร่ระบาดพบว่า นักเรียนเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อมากที่สุด ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่การประชุมวอร์รูมของสธ. และคณะกรรมการส่งเสริมการผลิตวัคซีนไว้แล้ว ซึ่งหลายฝ่ายเห็นด้วยโดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขระดับชาติต่อไปนพ.จรุง กล่าว

นพ.จรุง กล่าวว่า อย่างไรก็ตามวัคซีนที่สธ.สั่งซื้อจากบริษัทซาโนฟี่ปาสเตอร์ ประเทศฝรั่งเศสจำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งดำเนินการจากเชื้อตาย สามารถให้กับทุกกลุ่มได้ อาจจะต้องมีการฉีด 2 โดสต่อคนเพื่อเป็นการกระตุ้น ดังนั้นจะเหลือสำหรับคนเพียง 1 ล้านคน ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ประมาณ 3 แสนคน หญิงตั้งครรภ์ประมาณ 8 แสนคน ผ้ป่วยโรคประจำตัว 2.6 ล้านคน รวมแล้ว 3.7 ล้านคนแล้ว ส่วนวัคซีนที่ไทยจะผลิตเองโดยองค์การเภสัชกรรม(อถ.) เป็นผู้ผลิตจะผลิตจากเชื้อเป็นที่อ่อนฤทธิ์แล้ว จะมีข้อจำกัดในการให้กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ดังนั้นจำเป็นต้องมีการจัดสรรวัคซีนอย่างละเอียด

"หากรวมข้อมูลของกรมอนามัยที่สำรวจคนอ้วนอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปในประเทศไทยที่มีกว่า 15 ล้านคนขึ้นไป ก็จำเป็นต้องมาพิจารณาถึงรายละเอียดหลักเกณฑ์บุคคลที่ควรได้อีก เช่น หากคนอ้วนที่อยู่บนภูเขา อาจไม่ได้รับวัคซีนแต่คนอ้วนในเมืองใหญ่จะได้รับ เพราะโอกาสในการสัมผัสเชื้อต่างกัน โดยในระหว่างที่วัคซีนจะสำเร็จก็ยังคงต้องปรับข้อมูลมาใช้พิจารณาให้ตรงตามสถานการณ์ไปเป็นระยะๆ นพ.จรุง กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook