ยกฟ้องคดีเก่ง-การุณแพ้คดีปลอมวุฒิปวส.ฟ้อง มสธ.

ยกฟ้องคดีเก่ง-การุณแพ้คดีปลอมวุฒิปวส.ฟ้อง มสธ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ศาลปกครองกลาง พิพากษา ยกฟ้อง เก่ง-การุณ โหสกุล ส.ส.กทม.เพื่อไทย แพ้คดี ฟ้อง ม.สุโขทัยธรรมาธิราช สภามหาวิทยาลัย เพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา ยกเลิกปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์ หลังตรวจสอบใช้วุฒิ ปวส. ปลอม สมัครเป็นนักศึกษา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลโดยนายชวลิต ลาภผล ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวน พิพากษายกฟ้อง คดีที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ.) และสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องเป็นหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่สภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีมติยกอุทธรณ์ นายการุณ ที่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ได้ถอนสภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษา และยกเลิกปริญญารัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิตที่ออกให้นายการุณ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 43 เนื่องจากพบว่านายการุณใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าศึกษาะดับอุดมศึกษา

โดยศาลพิเคราะห์ แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันที่ 30 มิถุนายน 42 นายการุณ ผู้ฟ้องสมัครเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิทยาการจัดการโดยใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาการบัญชี จากโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต จ.นครศรีธรรมราชที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษาปี 2540 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 42 แล้วต่อมาปี 2543 ผู้ฟ้อง ได้ใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาวิชาการตลาดจากโรงเรียนธนกิจพณิชยการ กทม. ที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษา 2529 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 31 มาสมัครเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีอีกในสาขาวิชาการวิทยาการจัดการ แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ วิชาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ โดยจบการศึกษาวันที่ 30 ตุลาคม 43 ซึ่งต่อมาสำนักทะเบียนและวัดผลของ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ตรวจสอบหลักฐานวุฒิการศึกษาของผู้ฟ้องแล้ว พบว่า สถานศึกษาดังกล่าวแจ้งว่า ผู้ฟ้องไม่ได้เป็นนักเรียน และไม่ปรากฏชื่อเป็นผู้จบการศึกษาแต่อย่างใด ซึ่งหลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาถูกจัดทำขึ้นในภายหลัง จึงส่งผลให้ผู้ฟ้องขาดคุณสมบัติรับการศึกษาระดับปริญญาตรี ผู้ถูกฟ้องจึงสั่งเพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา และยกเลิกปริญญาบัตร การที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสองมีมติจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ดี คดียังไม่ถือว่าถึงที่สุด เนื่องจากตามกฎหมายคู่ความในคดียังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ ภายใน 30 วัน ซึ่งหากครบกำหนดแล้วไม่มีคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น คดีจึงจะถือเป็นที่ยุติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook