กกต.ประสานดีเอสไอส่งตัวประจวบสอบปากคำ

นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าววันที่ 27 กรกฎาคมถึงความคืบหน้าในการสอบสวนเงินบริจาค 258 ล้านบาท จาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัท เมซไซอะ บิสซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด และการใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ผิดวัตถุประสงค์ว่า ได้ทราบข่าวจากสื่อว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ตัวนายประจวบ สังขาว อดีตผู้บริหารบริษัท เมซไซอะฯ มาแล้ว จึงอยากให้ดีเอสไอส่งตัวมาให้ กกต.เนื่องจากนายประจวบ เป็นต้นเรื่องที่ กกต.ต้องการจะสอบถามเรื่องบริษัท เมซไซอะฯ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญของเส้นทางการเงินว่า ไปถึงจุดไหน ขั้นตอนไหน อย่างไร การใช้เงินของบริษัทเมซไซอะฯ ถูกต้องหรือไม่ ไม่รู้สึกกังวลต่อเรื่องระยะเวลาที่อาจทำพยานหลักฐานและโดยเฉพาะพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงไป

"กกต.อยากให้นายประจวบ สังข์ขาว มายืนยันด้วยตัวเองกับ กกต.เพื่อที่จะได้รับรองสำนวนคำให้การ ที่เคยให้การกับดีเอสไอไว้ ว่า คำให้การนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องจะได้นำไปเป็นหลักฐานในการดำเนินการ ซึ่งหากนายประจวบมาให้การ กกต.คงจะถ่ายวิดีโอเทปไว้เป็นหลักฐานนางสดศรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีเอสไออ้างว่า มีการบันทึกวิดีโอคำให้การของนายประจวบ และยืนยันว่า ยังมีตัวตน กกต.สามารถใช้วิดีโอดังกล่าวเป็นหลักฐานได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า หากพูดถึงหลักฐานทางกฎหมายจะสามารถใช้ได้ในกรณีที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่หากนายประจวบ ยังมีชีวิตอยู่ ควรจะมาให้การกับ กกต. อย่างไรก็ตามจะให้เจ้าหน้าที่ประสานขอวิดีโอคำให้การของนายประจวบ จากดีเอสไอด้วย

ส่วนที่มีข่าวว่า พยานบางคนไปอยู่ต่างประเทศแล้วนั้น นางสดศรี กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนฯ ยังไม่ละทิ้งและพยายามติดต่อ เพื่อยืนยันคำให้การ ทั้งนี้ กกต.จะตรวจสอบเรื่องเงินกองทุนพรรคการเมืองรวมถึงเงินบริจาค ในช่วงปี 2548 ว่า การดำเนินการและรายงานมาให้ กกต.ถูกต้องหรือไม่ด้วย แม้ว่าในปี 2548 ไม่มีการกำหนดเพดานในการบริจาคเงินไว้ โดยรายงานของพรรคที่ส่งมาให้ กกต.ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม