น.ร.ไทยสร้างชื่อคว้า4เหรียญเงินเคมีอลป. ที่อังกฤษ เผยใช้หลักอิทธิบาทสี่ ความเก่งตามมาเอง

น.ร.ไทยสร้างชื่อคว้า4เหรียญเงินเคมีอลป. ที่อังกฤษ เผยใช้หลักอิทธิบาทสี่ ความเก่งตามมาเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เด็กไทยจากร.ร.เตรียมอุดมศึกษาและมหิดลวิทยานุสรณ์ 4 คน แสดงความเก่งกาจในเวทีแข่งขันเคมีโอลิมปิก ระหว่างประเทศ ที่อังกฤษ ด้วยการคว้า 4 เหรียญเงิน เผยใช้หลักอิทธิบาทสี่ ความเก่งจะตามมาเอง นางสาวนารีวงศ์สิโรจน์กุลรักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แจ้งว่าตามที่สสวท.ได้คัดเลือกและจัดส่งคณะผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันเคมีโอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี 2552 จำนวน 4 คน ระหว่างวันที่ 18 - 27 กรกฎาคม 2552 ณ เมืองอ็อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษผลปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยทำได้ 4 เหรียญเงิน จากฝีมือของ พชรพล สินชัยโรจน์กุลโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์,พิณนรี เตี่ยมังกรพันธุ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา,ศศิลดา ศิริรุ่งเรือง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและ อลิฟ น้อยคำ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

สำหรับคณะผู้แทนประเทศไทยฯจะเดินทางกลับถึงไทยในวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2552 เที่ยวบิน TG 917 เวลา 21.30 น. สสวท.จะมีพิธีต้อนรับคณะผู้แทนประเทศไทยฯ ตามกำหนดดังกล่าว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ชั้น 2 ด้านใน ประตูที่ 1

พชรพล เล่าว่าประทับใจโครงการโอลิมปิกวิชาการที่ทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆ หลากหลาย ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับต่างชาติซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ตนเองก็เหมือนเด็กทั่วๆไป ยามอดิเรกก็มีเล่นบาสเก็ตบอล ตีปิงปอง แบดมินตัน อ่านนิยายบ้างซึ่งมีส่วนช่วยให้รู้สึกฝึกฝนศิลปะในการเขียนและสื่ออารมณ์ให้คนอื่นเข้าใจได้ กำลังใจของชีวิตมาจากครอบครัวที่สนับสนุนทุกด้านทำให้แม้ในยามที่ผิดหวังก็ยังมีพลังแก้ไขและเ/>

พิณนรี กล่าาว่าใช้หลักอิทธิบาทสี่ตามแนวทางพระพุทธศาสนาช่วยให้เรียนดีอย่างมีความสุขคือ ฉันทะมีใจรักที่จะเรียน วิริยะโดยทุ่มเทพยายาม จิตตะหมั่นเอาใจใส่สิ่งที่เรียน และวิมังสาคือพยายามไตร่ตรองสิ่งที่เรียนรู้ สรุปว่าถ้ารักที่จะเรียนรู้แล้ว ความเก่งก็ตามมาเองและทำให้ไม่เบื่อวิชาที่ไม่ถนัดด้วย อีกความสุขของพินพินก็คือได้แบ่งปันความรู้ให้เพื่อนๆที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมโดยช่วยอธิบายและลุ้นให้เพื่อนๆ เข้าใจจนหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง สำหรับเวลาว่างชอบเล่นเปียโน ปิงปอง อ่านหนังสืออ่านเล่นที่เป็นวรรณคดีไทยและอังกฤษ

" อยากให้คุณครูคณิตศาสตร์สอนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ให้เด็กคิดเป็น เสนอวิธีแก้โจทย์ที่นำไปสู่คำตอบหลายวิธี จูงใจให้เด็กฝึกฝนโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ ส่วนวิทยาศาสตร์อยากให้ได้ทดลองจริง ไม่ต้องใช้วัสดุแพงๆ แต่ประยุกต์สิ่งที่มีอยู่มาใช้แทน ชี้ให้เด็กเห็นความสำคัญของ 2 วิชานี้ และมีจิตวิทยาเด็กเพื่อให้เข้าถึงเด็กๆได้ว่าช่วงวัยใด สนใจอะไร มีสมาธินานแค่ไหน ควรจะสอนอย่างไรไม่ให้น่าเบื่อ พินพินเผยใจผู้เรียน

ศศิลดา กล่าวว่าดีใจมากที่ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ก่อนไปแข่งขันได้เตรียมความพร้อมโดยอ่านหนังสือและฝึกทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ทางบ้านเปิดกว้างให้เรียนตามที่ตัวเองต้องการทำให้เรียนอย่างมีความสุขและเรียนได้ดีขึ้นอนาคตน้องพายมุ่งหวังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสอนเคมีอันเป็นวิชาที่ชอบมากพอๆ กับฟิสิกส์ และภาษาอังกฤษเวลาว่างชอบอ่านนวนิยายแปลเพราะช่ยได้ดีทั้งยังได้เรียนรู้สภาพสังคมของต่างประเทศด้วย ช่วงที่ประทับใจมากคือช่วงเข้าค่ายเคมีโอลิมปิกเพราะอาจารย์ทุ่มเทสอน ได้รับความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา ได้เจอเพื่อนที่มาจากต่างที่กันและต่างรุ่นกันแต่ทุกคนสนใจเรื่องเดียวกัน

อลิฟ เผยว่าชอบชีววิทยาที่เปิดโอกาสให้ทำแล็ปแต่ก็ต้องแน่นทฤษฎีเป็นพื้นฐานด้วย ครอบครัวมีบทบาทสำคัญเรื่องการเรียนมาก อย่างเช่นตนเองตอนที่ไม่ขยันคุณแม่ถึงขนาดบางครั้งกระตุ้นด้วยการอ่านหนังสือให้ฟังเลยทีเดียว จึงทำให้ตนยิ่งซาบซึ้งและรีบปรับปรุงแก้ไข ส่วนสิ่งที่ประทับใจจากโครงการโอลิมปิกวิชาการคือได้รู้จักคนมากขึ้น เรียนรู้โลกกว้างขึ้นและเกิดมิตรภาพ

"ตอนอยู่ ม. 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ควรอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าม.4 ตอนนั้นเคยติดเกมจนผมกับคอมพิวเตอร์ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ แต่พอเล่นเกมไปแล้วก็เริ่มรู้สึกเบื่อที่จะต้องมานั่งอยู่กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนทั้งวัน จึงเลิกเล่นเกมและจากนั้นมาก็ไม่ติดเกมอีกเลย เหมือนคิดได้ว่าเล่นไปก็เท่านั้น ถ้าจะเล่นก็เล่นเฉพาะตอนเบื่อๆ แค่นั้นก็พอแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook