สุเทพยันไม่ได้ส่งคนตระกูลเทือกสุบรรณชิงนายกฯอบจ.สุราษฎร์พ่ายคน ปชป. ย้ำไม่ส่งผลสนามเลือกตั้งซ่อม

เทือกสุบรรณแพ้ไม่มีผลสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีเหตุลงสมัครเองไม่ใช่ตัวแทนพรรค คุยแพ้เพราะคนปชป.แข่งกันเองไม่ส่งผลอะไรกับรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ พท.เห็นผลแล้วคึกเล็งชิงเขต1สุราษฎร์ฯ เทือกสุบรรณ แพ้ไม่มีผลสนามอื่น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายได้รับใบเหลือง โดยปรากฏผลนายดำรงค์ เทือกสุบรรณ เครือญาตินายสุเทพ พ่ายแพ้ให้แก่นายมนตรี เพชรขุ้ม อดีตคู่ปรับนายธานี ที่ร้องเรียนคัดค้านผลการเลือกตั้งครั้งก่อน กระทั่งนายธานีได้รับใบเหลืองว่า เป็นเรื่องของผู้สมัครกับประชาชน และเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง และไม่น่าจะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 (พรรคประชาธิปัตย์เตรียมส่งนายธานีลงสมัคร) โดยผมขออธิบายว่าผู้สมัครตระกูลเทือกสุบรรณที่ลงสมัคร ไม่ใช่เป็นตัวแทนของตระกูลที่ส่งลงไปสมัคร และไม่ใช่ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ เขาสมัครของเขาเอง และพวกผมก็ไม่ได้ไปช่วยหาเสียงให้กับเขา เพราะฉะนั้น ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรแล้ว ก็ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งคราวอื่น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสุราษฎร์ฯรายงานผลการเลือกตั้ง อบจ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม อย่างไม่เป็นทางการ ว่านายมนตรี เพชรขุ้ม ได้คะแนนสูงสุด 113,340 คะแนน ชนะนายดำรงค์ อดีตประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ฯลูกพี่ลูกน้องนายสุเทพ ที่ได้ 111,776 คะแนน โดยคะแนนห่างกัน 1,564 คะแนน

คุยแพ้เพราะคนปชป.แข่งกันเอง

นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพ่ายแพ้ของนายดำรงค์ไม่ส่งผลอะไรกับรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคได้พูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ส่ง และไม่สนับสนุนใครลงเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ครั้งนี้โดยเด็ดขาด ซึ่งการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นจะขึ้นกับตัวบุคคล สังเกตได้จากคะแนนการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ครั้งก่อน ที่นายธานีได้รับการคัดเลือกด้วยคะแนน 1.9 แสนคะแนน ขณะที่นายมนตรี ได้ 1.1 แสนคะแนน มาในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัคร 3 คน คนที่ 2 และ 3 คือนายดำรงค์ และนายประวิช นิลวัชรมณี ได้คะแนนรวมกัน ประมาณ 2 แสนคะแนน ซึ่งถือเป็นคะแนนเดิมของนายธานี จึงไม่ถือว่าคะแนนนิยมในพรรคประชาธิปัตย์ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่แข่งกันเอง ก็อาจจะได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ใช่หรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ใช่ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคจะประสบปัญหาอย่างนี้เป็นประจำ ถึงเวลาก็ลงแข่งกันเองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การส่งคนลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ

แม้จะแพ้เลือกตั้งครั้งนี้แต่ไม่ได้แสดงว่า คนรักพรรคประชาธิปัตย์น้อยลง และมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับการลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ของนายธานี เพราะเชื่อว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจกับพรรคประชาธิปัตย์ และนายธานีก็ลงพื้นที่มาโดยตลอด นายชุมพลกล่าว

พท.เห็นผลแล้วคึกเล็งชิงเขต1สุราษฎร์ฯ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่ประชุมพรรควันที่ 28 กรกฎาคม จะคัดเลือกผู้สมัครส่งชิงเก้าอี้ ส.ส.สุราษฎร์ฯ เขต 1 ขณะนี้มีตัวเลือกที่น่าสนใจ คือนายสมพล วิชัยดิษฐ น้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พท. นอกจากนี้ ยังมีคนเด่นดังอีก 3 ราย อยู่ในข่ายที่พรรคจะเลือกด้วย

ตระกูลวิชัยดิษฐ เคยช่วยเหลือการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ในสุราษฎร์ฯมาก่อน แต่หลังจากที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโจมตีตระกูลวิชัยดิษฐ ทำให้เชื่อว่าหลังจากนี้เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ตระกูลวิชัยดิษฐจะหันมาช่วยพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่ อีกทั้งผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่นายมนตรีเอาชนะนายดำรงค์ได้ แสดงให้เห็นว่า การเลือกตั้งที่สุราษฎร์ฯไม่ใช่เรื่องของตระกูลเทือกสุบรรณ แต่เป็นเรื่องของผู้สมัครและพี่น้องประชาชน เชื่อว่าพรรคน่าจะมีสิทธิได้ ส.ส.ในพื้นที่นี้ นายพร้อมพงศ์กล่าว

โฆษก พท.กล่าวว่า เหตุที่นายดำรงค์พ่ายแพ้เป็นเพราะคนสุราษฎร์ฯเบื่อหน่ายพรรคประชาธิปัตย์ที่แข่งกันเองสองกลุ่มระหว่าง กลุ่มเทือกสุบรรณกับกลุ่มนายบัญญัติ บรรทัดฐาน สุดท้ายก็ต้องแพ้ต่อตาอยู่ที่เป็นกลุ่มเลือดใหม่ การเมืองที่ผูกขาดอำนาจใน 14 จังหวัดภาคใต้ วันนี้คนใต้เริ่มคิดโดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเลือกคนกลางๆ ไม่ผูกขาดเหมือนพรรคประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 และเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 22-23 สิงหาคม พร้อมกำหนดวันเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 5-9 สิงหาคมนี้