ผู้ค้ารถยนต์มือสองชี้ก.ม.ฟอกเงินไม่กระทบธุรกิจ แต่วุ่นตรงงานเอกสารเพิ่ม

ผู้ค้ารถยนต์มือสองชี้ก.ม.ฟอกเงินไม่กระทบธุรกิจ แต่วุ่นตรงงานเอกสารเพิ่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นางสาววรรณภา ตั้งบรรยงค์ กรรมการ บริษัท เบนซ์อมรรัชดา จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองรายใหญ่ และรถยนต์มือสองยี่ห้อต่างๆ กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจ ถึงกรณีที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2552 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ประเด็นสำคัญซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติม คือการกำหนดให้ผู้ประกอบอาชีพ 9 ประเภท มีหน้าที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมและรายงานหรือชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถึงการทำธุรกรรมเงินสดตั้งแต่ 2 ล้านหรือกว่านั้นขึ้นไป ว่าโดยภาพรวมแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากการซื้อขายรถยนต์ของเบนซ์อมรฯ โดยปกติการทำธุรกรรมส่วนใหญ่ระหว่างบริษัทกับลูกค้าผู้ซื้อ หรือผู้ขายรถกับบริษัทนั้น จะเป็นการสั่งจ่ายโดยเช็คเงินสดตามปกติ ส่วนธนาคารจะเป็นผู้ดำเนินการและแจ้งไปยัง ปปง. ซึ่งได้มีการดำเนินการมาแล้วพักใหญ่ และบริษัทเชื่อว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับ นายก่อเกียรติ กฤษดาธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ เอ็น.เค. คาร์พลาซ่า จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มือสองรายใหญ่ ที่เชื่อว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดความยุ่งยากต่อผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองแต่อย่างใด เนื่องจากโดยปกติการซื้อขายรถยนต์มือสองที่มีราคาเกินกว่า 2 ล้านบาท ผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็จะมีการสั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีธนาคารเป็นผู้ชี้แจงต่อ ปปง.ให้อยู่แล้ว

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า ไม่ว่าเราหรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ราคาเกินกว่า 2 ล้านบาทนั้น ก็จะต้องชี้แจงไปยัง ปปง.อยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.เช็คมากกว่า และโดยส่วนใหญ่ธนาคารก็จะเป็นผู้ดำเนินการให้ นายก่อเกียรติกล่าว

ขณะที่นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการ บริษัท รามคำแหงกรุ๊ป จำกัด หรือบีอาร์จี และนางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์อิสระจากต่างประเทศ หรือเกรย์มาร์เก็ต มองว่าเรื่องนี้ผู้ค้ารถนำเข้าไม่น่าจะกระทบ เพราะเมื่อมีการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีมูลค่าเกินกว่า 2 ล้านบาทนั้น โดยปกติลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเลือกทำธุรกรรมผ่านธนาคาร และมีการสั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดมากกว่า เนื่องจากมีความสะดวกและปลอดภัย ดังนั้นในประเด็นที่หลายคนมองว่าธุรกิจการซื้อขายรถยนต์อาจจะมีช่องว่างก่อให้เกิดการฟอกเงินนั้นจึงเป็นไปค่อนข้างยาก

ขณะที่ผู้ประกอบการรถยนต์มือสองจำนวนไม่น้อยมองว่าผู้ค้ารถยนต์ส่วนใหญ่ดำเนินการตามที่กฎหมายระบุ และมี พ.ร.บ.หลายตัวรองรับ ฉะนั้นการที่ ปปง.ระบุให้รายงานเพิ่มเติมก็ไม่กระทบ เพียงแต่จะวุ่นวายเรื่องเอกสารเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook