กมธ.ป.ป.ช.ชี้เช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันผิดกม.5ประเด็นทำรัฐเสียหาย ระบุบอร์ดขสมก.มีส่วนเกี่ยวข้อง
กมธ.ป.ป.ช.ชี้เช่า-ซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันผิดกฎหมาย 5 ประเด็น จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเช่าหรือจะซื้อจะสร้างความเสียหายให้กับรัฐทั้งสิ้นเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการดังกล่าว นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลสรุปการตรวจสอบโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของขสมก.ว่า ที่ประชุมมีข้อยุติว่า โครงการดังกล่าวมีความผิดกฎหมายและทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ 5 ประเด็น คือ 1.กระทำผิดพ.ร.บ.องค์กรหน่วยงานรัฐ มาตรา 3 มาตรา 4 และมาตรา 11 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร 2. กฎหมายอาญามาตรา 157 จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยนำข้อมูลอันเป็นเท็จเสนอต่อผู้บังคับบัญชา 3.ผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดต่อพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 และ มีความผิดตามประกาศองค์การขนส่งมวลชน(ขสมก.)เรื่องประมวลจริยธรรมและ จรรยาบรรณของ ขสมก. 4.มีความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 และ 5.มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของ รัฐ พ.ศ. 2542 หรือพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 11 เนื่องจากมีการล็อคสเปกบริษัทที่ได้รับการประมูล
นายชาญชัย กล่าวว่า กมธ.ปปช.จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาล เพราะเห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเช่าหรือจะซื้อจะสร้างความเสียหายให้กับรัฐทั้งสิ้น จึงจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการดังกล่าว รวมทั้งให้ศึกษาโครงการนี้อย่างรอบคอบ โดยให้องค์กรอื่นๆทั้งรัฐและเอกชนมาร่วมศึกษา อย่างไรก็ตามจากที่ตรวจสอบพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในเบื้องต้นนั้น ได้แก่ คณะกรรมการบอร์ด ขสมก.ทั้งหมด ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการบอร์ด ขสมก.รวมถึงคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์ และคณะอนุกรรมการบริหารที่มาศึกษาเรื่องนี้จำนวน 6 คน ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการบอร์ดขสมก. พร้อมทั้งจะทำข้อสรุปทั้งหมดไปยัง นายกรัฐมนตรี,สภาผู้แทนราษฎร,สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)และปปช.พร้อมกันในวันที่ 30 ก.ค.นี้.
