พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้ตรวจพบกลุ่มมิจฉาชีพที่ขอคืนภาษีเข้ามาจำนวนมากกว่า 100 บัญชี รวมเป็นเงิน 60,000-70,000 ล้านบาท โดยแต่ละรายการขอคืนภาษีไม่มาก เพียง 4,000-5,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่า แม้จะมีรายชื่อตามบัตรประชาชนที่ถูกต้อง แต่กรมฯ ต้องจัดส่งเอกสารไปยังที่อยู่เดียวกันจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะเป็นลักษณะมิจฉาชีพที่จ้างขอใช้บัตรประชาชนจากประชาชนทั่วไป และให้เงินค่าจ้างรายละ 500 บาท เพื่อนำไปทำเรื่องขอคืนภาษีดังกล่าว โดยที่เจ้าของบัตรเหล่านั้นไม่ทราบว่านำสำเนาบัตรประชาชนของตนเองไปทำอะไร
เมื่อกรมฯ ตรวจพบ ก็ได้ทำเรื่องคืนเงินให้รายหนึ่งในที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ แล้วส่งเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งผู้ที่ได้รับเงินคืนดังกล่าวนำเช็คไปขึ้นเงิน ซึ่งมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ในธนาคารทั่วประเทศ จึงได้ติดตามจับกุมได้ ทั้งนี้กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ไม่ได้มีมากนัก แต่ว่ามีผลทำให้การขอคืนภาษีกับรายอื่น ๆ นั้นต้องล่าช้าออกไปด้วย เพราะกรมฯ ต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดทุกขั้นตอนก่อนจะคืนเงินให้ต่อไป.