ญี่ปุ่นรุกเปิดบริการทัวร์สุขภาพ ดึงนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักหวังสร้างรายได้เข้าประเทศ

ญี่ปุ่นรุกเปิดบริการทัวร์สุขภาพ ดึงนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักหวังสร้างรายได้เข้าประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รัฐบาลญี่ปุ่นเดินตามรอยประเทศในอาเซียน หวังใช้จุดแข็ง ด้านบริการสุขภาพ จนคนญี่ปุ่นอายุยืนและสุขภาพแข็งแรง วางแผนบุกตลาดเปิดให้บริการทัวร์สุขภาพ ดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาใช้บริการ ขยายแนวทางสร้างรายได้เข้าประเทศ ลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายดูแลสังคมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่พุ่งสูงขึ้น

เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นนอกจากมีชื่อเสียงในการผลิตรถยนต์ ทีวีสี และคอมพิวเตอร์คุณภาพระดับแถวหน้าของโลกแล้ว ยังมีชื่อเสียงในด้านบริการดูแลสุขภาพ เห็นได้จากคนญี่ปุ่นที่อายุยืน สืบเนื่องมาจากการดูแลสุขภาพที่ดีทำให้มีสุขภาพแข็งแรง

ตามนโยบายของรัฐบาล คนญี่ปุ่นทุกคนต้องมีประกันสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นประกันจากการทำงานหรือประกันจากบริการทางสังคม หรือถ้าไม่มีเงินรัฐบาลก็จะเป็นผู้จัดหาให้ ซึ่งเป็นรูปแบบประกันสุขภาพ ที่ใช้กันในประเทศร่ำรวยแล้ว

ดร. โคโนะ ฮิโคชิ ซึ่งดูแลโรงพยาบาลเอกชนในญี่ปุ่นขนาด 19 เตียงในโตเกียวกล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับระบบสุขภาพในญี่ปุ่น คือ คนญี่ปุ่นทุกคนจะได้รับการดูแลด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเวลาใด นอกจากนี้ค่าบริการยังค่อนข้างถูก ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมไปหาหมอเหมือนกับคนอเมริกัน เพราะสามารถพบผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคได้เท่าที่ต้องการ และยังนิยมนอนโรงพยาบาลกันมากพอๆกับคนอเมริกัน

สาเหตุที่ญี่ปุ่นยังคงรักษาต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ต่ำเพราะกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นคุมเข้มเรื่องราคาให้ต่ำที่สุด และทุกๆ 2 ปี กระทรวงสาธารณสุขจะมีการเจรจาต่อรองเรื่องการกำหนดราคาในการให้บริการรวมไปถึงยาทุกตัว อย่างไรก็ตามเมื่อคนญี่ปุ่น อายุยืน และสุขภาพดี โรงพยาบาลกลับมีปัญหามากกว่า ซึ่งหมอฮิโคชิ กล่าวว่า ระบบรักษาพยาบาลในญี่ปุ่นค่อนข้างดีแต่ก็ไม่สมบูรณ์เสมอไป โดยเฉพาะโรงพยาบาลในญี่ปุ่น 50% มีปัญหาด้านการเงิน

ล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นจึงคิดวางแผนเปิดบริการด้านสุขภาพ(medical service)เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนักเข้าไปรักษา หวังสร้างรายได้เข้าประเทศ อีกทางเพื่อลดภาระของโรงพยาบาล ขณะที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) กล่าวไว้ในรายงานประจำเดือนว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศร่ำรวยโดยเฉพาะในเอเชีย และรัสเซีย เข้ามาใช้บริการด้านดูแลสุขภาพ และเปลี่ยนรูปแบบโรงพยาบาลที่เน้นบริหารต้นทุนเพื่อให้อยู่รอดสู่ธุรกิจที่ทำกำไรเป็นหลัก

โดยรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนเดินหน้าโครงการนี้ตั้งแต่กันยายน 2552 เริ่มจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของประเทศก่อน 10 แห่ง อาทิ ศูนย์มะเร็งแห่งชาติ และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไคโอะในกรุงโตเกียว โดยบริษัทนำเที่ยวจะช่วยประสานงานเรื่องแพ็กเกจทัวร์ บวกกับข้อเสนอที่รัฐจะเพิ่มให้ เช่น การตรวจและ การปลูกถ่ายพันธุกรรม เพื่อฟื้นฟูร่างกาย รวมไปถึงเซลล์ หรือเนื้อเยื่อที่เสียหาย ซึ่งบริการเหล่านี้ไม่ได้เปิดให้บริการกับคนทั่วไป

นายโตชิอากิ ชิบาตะ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยมิตซูบิชิในโตเกียว กล่าวว่า บริการทางการแพทย์ เป็นเรื่องสำคัญ ในเชิงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการจ้างงาน สถาบันการแพทย์ในระดับภูมิภาคซึ่งมีฐานกว้างขวางและเกี่ยวกับธุรกิจหลากหลายอาจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศได้อีกด้วย โดยข้อเสนอในการทำแพ็กเกจสุขภาพนี้ จะเป็นลักษณะแพ็กเกจทัวร์ที่รวม การตรวจสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และ กีฬาด้วย

ข้อมูลจากกระทรวงสื่อสารภายใน เผยว่า ประชากรญี่ปุ่น 28 ล้านคนหรือ 22% มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% นับจากปี 2533 นายทาคาชิ อาเบะ นักวิจัยจากสถาบันวิจัย เอ็นแอลไอ ส่วนธุรกิจในเครือ นิปปอน ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ธุรกิจประกันชีวิตรายใหญ่สุดในญี่ปุ่น กล่าวว่า การหันมาส่งเสริมบริการด้านสุขภาพน่าจะช่วยให้โรงพยาบาลที่มีคนไข้ชำระค่ารักษาพยาบาลเอง ที่มีไม่มากรายนั้น สร้างรายได้ชดเชยค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง

สอดคล้องกับนาย โคจิ ฟูจิโมโต้ ผู้อำนวยการอุตสาหกรรมให้บริการของกระทรวงเมติ กล่าวว่า ทางกระทรวงเมติ หวังว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยให้โรงพยาบาลบริหารกิจการและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านเฮลธ์แคร์ได้ดีขึ้น และจะเริ่มเดินหน้าโครงการ 1-2 ปีแรกเป็นการเก็บข้อมูลป้อนกลับมาสำหรับการศึกษาความเป็นไปได้ด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระยะยาว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่ากระทรวงเมติจะดำเนินการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook