มาโนช ผู้ฆ่า แจ็คสัน
ต้องถือเป็นบุญตาของแฟนเพลง ไมเคิล แจ็คสัน ในเมืองไทย เมื่อฟรีทีวีถึง 2 ช่อง ได้พร้อมใจกันถ่ายทอดสดงาน Michael Jackson Memorial Service พิธีไว้อาลัยราชาเพลงป๊อปที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในคืนวันจันทร์ เข้าสู่เช้าวันอังคาร ทางช่อง 3 และช่อง ทีวีไทย
และงานดังกล่าวก็ถูกบันทึกเอาไว้เป็นเจ้าของสถิติการถ่ายทอดสดพิธีศพของบุคคลสําคัญระดับโลกในลําดับ 3 ด้วยจํานวนผู้ชมมากกว่า 31.1 ล้านคน รองจากอันดับ 1 พิธีศพประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน ปี 2004 ที่มีคนดูถ่ายทอดสด 35.1 ล้านคน และ พิธีศพเจ้าหญิงไดอาน่า ในปี 1997 ที่ผู้คนทั่วโลกติดตามชม 33.3 ล้านคน แชมป์อันดับ 2
เป็นเวลานานนับเดือนแล้วที่ข่าวการเสียชีวิตของไมเคิล ได้จับจองพื้นที่ในทุกสื่อทั่วโลกและเมืองไทย การได้ร่วมชมพิธีไว้อาลัยต่อการจากไปของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ชื่อว่ามีแฟนเพลงมากมายทั่วโลกครั้งนี้ ถือเป็นการมีส่วนร่วมในการไว้อาลัย คิง ออฟ ป๊อป อย่างเป็นทางการ สําหรับคนที่ไม่มีโอกาสเป็น 1 ใน 17,500 คนผู้โชคดี ที่ได้ร่วมซึมซับรับรู้ความทรงจําดีๆ ในสนามกีฬาสเตเปิลส์ เซ็นเตอร์ นครลอสแอนเจลิส
ช่อง 3 เปิดช่วงพิเศษ ถ่ายทอดสดช่วงเวลาข่าววันใหม่ มี ชิบ จิตนยม ที่ตามติดทําสกู๊ปเกี่ยวกับไมเคิลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิต ดําเนินรายการสลับกับรายการข่าวประจําวัน ซึ่งเน้นไปที่การสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ในเมืองไทยที่เคยทํางานร่วมกับไมเคิล อาทิ ปีเตอร์ กัน โดย รับสัญญาณจาก CNN เป็นเพียงตัวเสริม ตัดสลับกับข่าววันใหม่โดยมีจอเล็กๆ เอาไว้เผื่อรอดูเหตุการณ์-บุคคลสําคัญบนเวทีของงาน
ทีวีไทย ที่ถ่ายทอดสัญญาณสมบูรณ์ มี 2 ผู้ประกาศข่าวชาย-หญิง ธีรัตถ์ รัตนเสวี กับ ณัฏฐา โกมลวาทิน และ มาโนช พุฒตาล ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกูรูด้านดนตรีสากล มาทําหน้าที่ร่วมบรรยายพิธีการสําคัญระดับโลก
เชื่อว่าในวินาทีแรกที่เห็น ทุกคนคงจะรู้สึกดีใจ ที่มีกูรูดนตรีสากล มาร่วมสร้างความสมบูรณ์ของพิธีการอันสําคัญ
ทว่า...เมื่อพิธีการยิ่งใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลก และแฟนไมเคิล แจ็คสัน รอคอยค่อยๆ ดําเนินไป ความรู้สึกที่คาดหวังว่าจะได้ร่วมซึมซับรับรู้ความทรงจําที่ดี ผ่านการถ่ายทอดของช่องทีวีไทย กลับถูกทําลายลงอย่างย่อยยับ วินาศสันตะโร โดยเฉพาะจาก "มาโนช พุฒตาล" ผู้ได้กลายเป็นฆาตกรที่ฆาตกรรม "ไมเคิล แจ็คสัน" ให้ตายซ้ำเป็นครั้งที่สอง คาจอ "ทีวีไทย"
ด้วยอีโก้ และอัตตา ที่แสดงออกอย่างชัดเจนชัดแจ้งผ่านคําพูดในการแสดงทัศนะครั้งแล้วครั้งเล่าของเจ้าของและพิธีกรรายการ "บันเทิงคดี" ผู้ยิ่งใหญ่ในใจคอดนตรี ว่า "กูเกลียดมึง"!!
หากจะมองหาจุดบกพร่องของการถ่ายทอดสดพิธีไว้อาลัย ไมเคิล แจ็คสัน ทางทีวีไทยในวันนั้น ต้นตอของเหตุที่นํามาสู่บรรยากาศอันน่าหดหู่ ก็น่าจะมาจากการที่ทีมงาน ซึ่งน่าจะเป็นตัวโปรดิวเซอร์ มองไม่ขาดในการที่จะหากูรูด้านดนตรีมาช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการไว้อาลัย ให้เดินและดําดิ่งไปสู่ความประทับใจ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่ครอบครัวแจ็คสัน ต้องการให้เกิดขึ้นในงานนี้
มีผู้รอบรู้ด้านดนตรีสากล หรือที่เรียกติดปากว่าเพลงฝรั่ง ระดับที่เรียกว่า "กูรู" มากมายนะครับในบ้านเรา หลายท่านต่างก็รู้หน้าที่แห่งตน เวลาที่ไปทําหน้าที่บรรยายพิธีการสําคัญ และทําหน้าที่จนล่วงบรรลุ
ขออนุญาตเอ่ยชื่อด้วยความชื่นชม อาทิ มณฑานี ตันติสุข, นิมิตร ลักษมีพงศ์ ที่สร้างชีวิตให้กับรายการดนตรีระดับโลก แม้กระทั่ง เฮนรี่ ทราน เมื่อยามถ่ายสดรายการเกี่ยวกับหนัง ไม่เหมือนอาการที่แสดงออกผ่านคําพูดทุกประโยคของ "มาโนช พุฒตาล" ในวันนั้น
ไม่ผิดดอกนะครับที่มาโนช ออกตัวตั้งแต่ก่อนงานจะเริ่มว่า "ผมไม่ได้เป็นแฟนเพลงของ ไมเคิล แจ็คสัน" เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า มาโนช นั้นโด่งดัง และได้รับการยอมรับจากคอเพลงสากล ในเรื่องความตรงไปตรงมาชนิดที่อาจเรียกว่าขวานผ่าซาก!
สมควรอย่างยิ่งที่ทีมงานทีวีไทย จะตระหนักกับความชัดเจนของมาโนช ตั้งแต่ประโยคเปิดที่ว่า "ไม่ได้เป็นแฟนเพลงของ ไมเคิล แจ็คสัน" ว่ากําลังจะเกิดอะไรกับรายการสดครั้งนี้ แต่การณ์กลับไม่ถึงไม่ใช่แฟน แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลอันควรที่กูรูดนตรีจะไม่แสดงความศรัทธาในความยิ่งใหญ่ของ ไมเคิล
บรรดา เพื่อน พี่ น้องร่วมวงการ ที่ครอบครัวแจ็คสัน เลือกเชิญมาร่วมในงานไว้อาลัยครั้งนี้ ต่างพูดถึงตัว ไมเคิล แจ็คสัน ด้วยคําพูดที่ผ่านการกลั่นมาแล้ว นอกเหนือจากคุณงามความดีแล้ว หลายคําพูดฉายชุดให้เห็นชีวิตประจําวันที่แสนเรียบง่ายของราชาเพลงป๊อป ที่เราท่านไม่เคยรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็มี โดยเฉพาะตอนที่ บรู๊ค ชีลด์ พูดถึงนิสัยเด็กๆ และเสียงหัวเราะของไมเคิล เพื่อบอกความเป็นเด็กในตัวราชาเพลงป๊อป
แม้กระทั่งฉายา ราชาเพลงป๊อป มาโนช ก็กรีดมีดกลางใจแฟนเพลงว่า เป็น "ฉายาจัดตั้ง" โดยค่ายเพลงต้นสังกัด หาใช่การยอมรับจากแฟนเพลงเหมือน เอลวิส เพรสลีย์
ช่วงหนึ่งในหลายๆ ห้วง ณัฏฐา โกมลวาทิน พิธีกรหญิงพยายามหาข้อสรุปของเรื่องสีผิวของไมเคิลที่โลกรับรู้ว่า เขาพยายามเปลี่ยนสีผิวให้เป็นขาว จากมาโนช ซึ่งก็ได้คําตอบเชิงประชดว่า "สงสัยเขาคงอยากลองมั้งครับ"
หรือกระทั่งตอนที่พิธีกรอยากจะได้ยินคําพูดในแง่งามเกี่ยวกับการ ที่ไมเคิล ได้แสดงให้โลกยอมรับในเรื่องผิวสี มาโนช ก็เฉไฉ ก่อนตอบแบบสั้นๆ ว่า
"มีคนผิวดําในโลกมากมายนะครับที่ได้รับการยอมรับ"
