ร.ร.หอวังแจงไม่ได้บังคับนร.ถวายฎีกาแค่ให้วิเคราะห์ข่าวเว็บ วอร์รูมปชป.ซัดเสื้อแดงปั้นตัวเลข-ผิด3ข้อ

ร.ร.หอวังแจงไม่ได้บังคับนร.ถวายฎีกาแค่ให้วิเคราะห์ข่าวเว็บ วอร์รูมปชป.ซัดเสื้อแดงปั้นตัวเลข-ผิด3ข้อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผอ.ร.ร.หอวังแจงข่าวครูสังคมบังคับนักเรียนลงชื่อถวายฎีขอพระราชทานอภัยโทษช่วยทักษิณเรื่องเข้าใจผิด แค่ให้วิเคราะห์ข่าวบนเว็บไซต์เท่านั้น รับหงุดหงิดถุกด่ากระจาย จุรินทร์สั่งสอบครูล่ารายชื่อสนับสนุน ภท.รวมพลตุ๊กๆ-แท็กซี่แจกสติ๊กเกอร์ค้าน วอร์รูมปชป.ซัดเสื้อแดงผิด3ข้อล่าชื่อถวายฎีกา-ปั้นตัวเลข หอวังชี้ไม่ได้บังคับนร.ถวายฎีกาแค่ให้วิเคราะห์ข่าวเว็บไซต์

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายปลองยุทธ อินทพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง กล่าวถึงกรณีมีข่าวครูสอนวิชาสังคมศึกษาบังคับให้นักเรียนร่วมลงชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จากการสอบถามนักเรียนชั้นม.4 ทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด ครูไม่ได้บังคับให้นักเรียนไปลงชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกา แต่เป็นการมอบหมายให้นักเรียนทำการวิเคราะห์ข่าวบนเว็ปไซต์และให้คะแนน โดยเป็นประเด็นข่าวที่อยู่ในความสนใจ ซึ่งนักเรียนหลายคนก็วิเคราะห์เรื่องอื่น อาทิ ข่าวไมเคิล แจ๊กสัน แต่อาจเป็นเพราะครูมักจะยกตัวอย่างหรือพูดเรื่องการเมืองบ่อยๆ จนเกิดการสื่อสารผิดพลาด ซึ่งตนได้เชิญครูที่สอนวิชาสังคมศึกษาทั้ง 4 คนมาสอบถามก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้นักเรียนไปร่วมลงชื่อถวายฎีกาแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ให้ทราบทางวาจาแล้ว และจะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

ยอมรับว่าผมหงุดหงิดกับเรื่องนี้มาก เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมครูก็ได้ย้ำอยู่เสมอว่าต้องวางตัวเป็นกลาง เรื่องนี้ผมถูกด่าทางเว็บไซต์ว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการให้ครูบังคับนักเรียนล่ารายชื่อ ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ความเห็นทางการเมืองเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะคิดเห็นกันได้ แต่ต้องไม่บังคับเด็กให้คิดและเห็นตาม ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวังกล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าววันที่ 30 กรกฎาคมถึงข่าวครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ขอให้นักเรียนนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของพ่อแม่ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และข่าวครูโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สั่งการบ้านให้เด็กเข้าเว็บไซต์คนเสื้อแดงว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง

แต่สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบประเด็นที่ครูใช้สถานศึกษาเพื่อล่ารายชื่อแล้ว แต่ครูย่อมรู้ดีกว่าอะไรควรหรือไม่ควร โดยไม่ต้องให้ใครไปสั่งการ เนื่องจากองคมนตรีก็พูดแล้วว่าอะไรถูกหรือผิด ดังนั้น ครูควรติดตามรับฟังประเด็นเหล่านี้ด้วย รวมทั้งผู้รู้กฎหมายก็พูดชัดเจนว่ากระบวนการไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย ครูน่าจะใช้ดุลพินิจวิจารณญาณได้ การใช้สถานศึกษากระทำการดังกล่าวมีคำตอบอยู่แล้วว่าควรหรือไม่ควร ส่วนจะเป็นความผิดมีโทษหรือไม่ขอรอข้อเท็จจริงจาก สพฐ.เสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 กรกฎาคมพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ได้ระดมพลังรถแท็กซี่ และรถตุ๊กตุ๊ก แจกสติ๊กเกอร์ต่อต้านการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า

นอกจากนั้นพรรคฯยังมอบหมายให้ ส.ส.ลงพื้นที่ชี้แจงกับประชาชนด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นการมิบังควรในการก้าวล่วงพระราชอำนาจและพรรคภูมิใจไทยเห็นว่ายอมไม่ได้ โดยกิจกรรมคัดค้านดังกล่าวจะดำเนินการต่อเนื่องตามสถานที่สำคัญ เช่น สถาบันการศึกษา สถานที่ราชการ และห้างสรรพสินค้า

ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คณะทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) ได้ประเมินการยื่นล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิีตนายกรัฐมนตรีว่าเข้าข่ายความผิด 3 ข้อ คือ 1.ผิดในเชิงกฎหมาย 2.ผิดทางการเมือง โดยการดึงประชาชนมาต่อรองสถาบันเบื้องสูง และ 3.ผิดตามข้อเท็จจริง เพราะการประกาศว่าจะรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ได้ 3 ล้านรายชื่อ จะต้องอาศัยส.ส.พรรคเพื่อไทยที่หากมี 300 คน จะต้องล่ารายชื่อให้ได้ 1 หมื่นคน ถึงจะได้ 3 ล้านคน โดยจะต้องมีความเคลื่อนไหวที่คึกคักและมีกระแสข่าวในแต่ละพื้นที่ แต่จากการสอบถามส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์พบว่า ในแต่ละพื้นที่มีแต่ความเงียบ จึงอยากตั้งคำถามว่าเป็นการปั้นแต่งตัวเลขเหมือนกับการรวบรวมรายชื่อสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่ใช้เวลาไม่นานก็ได้สมาชิกถึง 10 ล้านชื่อหรือไม่

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์วันที่ 30 กรกฎาคมถึงการทำความเข้าใจกับประชาชนกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมนำรายชื่อประชาชนถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลสั่งให้สื่อของรัฐเตรียมทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะเรื่องนี้สร้างความสับสนให้กับสังคมไทย เมื่อดูจากข้อเท็จจริงผู้ดำเนินการไม่ได้คำนึงถึงข้อกฎหมาย และรัฐบาลเกรงว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน

"รัฐบาลไม่อยากให้สถาบันเข้ามาตกอยู่ในวังวนทางการเมืองและความขัดแย้ง ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าคนเสื้อแดงมีเป้าหมายอะไรในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าว และปฏิเสธว่าสำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรีไม่ได้ส่งหนังสือมายังรัฐบาลเพื่อให้ชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการถวายฎีกา

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายมานะ วุฒิยากร ประธานชมรม อบต. บางมูลนาก และ นายก อบต. วังกรด อำเภอบางมูลนาก จ.พิจิตร กล่าวว่า กรณีที่ มีนักการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะโชว์พลังดับทุกข์แผ่นดินยื่นถวายฎีกาล้านชื่อให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ตนมองว่า นักการเมืองระดับชาติชอบสร้างความวุ่นวายไร้สาระ ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองโดยเฉพาะ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางกลุ่ม ขอหยุดเสียทีเรื่องของอำนาจ แสวงหาอำนาจอะไรต่างๆ

ประชาชนที่กลุ่มเสื้อแดงล่ารายชื่อไป 1ล้านคนเพื่อถวายฏีกา นั้น แค่หยิบมือ แต่ประชาชนอีก 60 ล้านคนเขาไม่รู้เรื่องอะไรกับคนเหล่านี้คนของกลุ่มเสื้อแดงไปหลอกชาวบ้านแหกตาชาวบ้านเอาเงินไปให้เขาไปให้ชาวบ้านเซ็นบางคนก็มอบอำนาจมอบฉันทะมอบบัตรประชาชน มาให้มันไม่ถูกต้อง นายมานะ กล่าว

นายมานะ กล่าวอีกว่า เท่าที่ลงไปพูดคุยกับชาวบ้านนักการเมืองก็บ่นกันเป็นเสียงเดียวว่าทุกวันนี้ประเทศชาติ มีปัญหาวุ่นวายนั้นเกิดจากนักการเมืองระดับชาติที่ประชาชนเลือกเข้าไปทั้งสิ้น เรื่องปากท้องชาวบ้าน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนไม่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาช่วยเหลือแต่กลับสร้างปัญหาเสียเองเศรษฐกิจทรุดอย่างนี้ประชาชนส่วนมากเขาไม่มีเวลาไปชื่มชมนัการเมืองที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มเสื้อแดงแน่นอนเพราะประชาชนส่วนใหญ่มุ่งแต่จะหากินเพื่อปากท้อง เพื่อความอยู่รอด

ผมในฐานนักการเมืองท้องถิ่น และก็เป็นประชาชนเต็มขั้นอยากเรียกร้องให้นักการเมืองซึ่งอยู่เบื้องหลังกลุ่มเสื้อแดงหยุดการกระทำได้แล้วอย่ามาอ้างว่าจะดับทุกข์แผ่นดิน นักการเมืองระดับชาติอย่างพรรคเพื่อไทยทำอย่างนี้เป็นการทำลายชาติทั้งสิ้น ไม่ได้มาทำเพื่อชาติแต่ทำเพื่อคนคนเดียวนอกจากนี้การยื่นถวายฎาของกลุ่มเสื้อแดงเพื่อที่จะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะยังไม่ผ่านขบวนการขั้นตอนตามลำดับอยู่ๆ จะมายื่นถวายฏีกาโดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้รับโทษ อย่างนั้นในอนาคตชาวบ้านคงจะต้องทำเรียนแบบได้ ซึ่งยังยื่นยันว่าท้องถิ่นไม่เห็นด้วยขอให้หยุดเนื่องจากรัดขั้นตอน นายมานะกล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าววันที่ 30 กรกฎาคมถึงความเคลื่อนไหวในล่ารายชื่อปราชน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เป็นเรื่องที่คนกังวล ทุกคนต้องตระหนักว่าอย่าทำอะไรที่กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท ประเทศไทยที่อยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ถ้ายังไม่สำนึกกันแล้วทำอะไรที่กระทบกระเทือน ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะแสดงจุดยืนต่อเรื่องการถวายฎีกาอย่างไร เพราะหลายฝ่ายวิจารณ์ว่ารัฐบาลดูนิ่งเฉย นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลก็พยายามอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่สมควร และกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะพยายามดูแลในกรอบของกฎหมาย แต่มันต้องมีคนทำผิดกฎหมายเสียก่อน ถึงจะเข้าไปบังคับใช้กฎหมายได้ขณะนี้ทำได้แค่การพูดกัน ปรามกัน แต่ว่าคนดื้อมากเหลือเกินในแผ่นดินขณะนี้

"ขอยืนยันว่าการถวายฎีกาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ไม่ใช่กระบวนการที่ทำกันในประเทศไทย และไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง ผมได้เรียกร้องประชาชนคนไทยแล้วว่าอย่าเข้าไปร่วมมือ และต้องระมัดระวังว่าอย่าทำให้เหตุการณ์มันรุนแรงไปกว่านี้ บ้านเมืองบอบช้ำมากพอแล้ว

ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขึ้นป้ายคัดค้านการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายสุเทพกล่าวว่า พอมีความเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมมีหลายๆ ฝ่ายออกมาแสดงปฏิกิริยาต่อต้าน อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลพยายามเป็นกลาง ไม่อยู่ฝ่ายไหน ก็เลยไม่ถูกใจอีก เพราะยืนตรงกลาง ถูกเกลียดชังทั้ง 2 ด้าน ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดงซัดตนจนป่นปี้หมด จนไม่รู้จะใส่เสื้อสีอะไรแล้ว คงจะต้องโดนเข้าสักวัน เมื่อถามว่า จะใส่เสื้อสีน้ำเงินหรือไม่ นายสุเทพไม่ตอบคำถามดังกล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์วันที่ 30 กรกฎาคมถึงการทำความเข้าใจกับประชาชนกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมนำรายชื่อประชาชนถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลสั่งให้สื่อของรัฐเตรียมทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะเรื่องนี้สร้างความสับสนให้กับสังคมไทย เมื่อดูจากข้อเท็จจริงผู้ดำเนินการไม่ได้คำนึงถึงข้อกฎหมาย และรัฐบาลเกรงว่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน

"รัฐบาลไม่อยากให้สถาบันเข้ามาตกอยู่ในวังวนทางการเมืองและความขัดแย้ง ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าคนเสื้อแดงมีเป้าหมายอะไรในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าว และปฏิเสธว่าสำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรีไม่ได้ส่งหนังสือมายังรัฐบาลเพื่อให้ชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการถวายฎีกา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook