เสื้อแดงเล็งฟ้องกลับมท.หากพบสวมชื่อ ไม่ส่งฎีกาช่วยแม้วผ่านองคมนตรีอ้างไม่ไว้ใจ ยื่นสำนักพระราชวัง

แม้วโฟนอิน 20.30 น. เสื้อแดงคาดได้ชื่อเกือบ 3 ล้านคน ไม่ยื่นผ่านองคมนตรีเพราะไม่ไว้ใจจะยื่นต่อสำนักพระราชวังโดยตรง ยืนยันว่าจะต่อสู้ทั้ง 2 คดีไม่ยอมให้จับจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นจะเคลื่อนไหวไล่รัฐบาลต่อ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือแกนนำกลุ่มเสื้อแดง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ท้องสนามหลวงที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อรวบรวมรายชื่อถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อจากคนเสื้อแดงทั่วประเทศคาดว่าจะได้เกือบ 3 ล้านรายชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินในเวลา 20.30 น.

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)นำกลุ่มคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 และคดีปลุกระดมมวลชนเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และมั่งสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวาย้านเมือง ยืนยันว่าจะต่อสู้ทั้ง 2 คดี แม้จะถูกอัยการสั่งฟ้องวันนี้หากมีการจับกุมพร้อมจะต่อสู้เพื่อขอถวายฎีกาให้เสร็จสิ้นก่อน และการยื่นถวายฎีกาจะไม่ยื่นผ่านองคมนตรีเพราะไม่ไว้ใจจะยื่นโดยตรงที่สำนักพระราชวัง ในการชุมนุมวันนี้เป็นการเปิดให้ลงชื่อเพิ่มเติม

.

การที่กระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะถอนชื่อถวายฎีกานั้น ทางกลุ่มเสื้อแดงจะตรวจสอบรายชื่อทั้งหมด หากพบว่าราชื่อไม่ตรงกันจะฟ้องกลับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายณัฐวุฒิ กล่าว

ขณะที่นายจตุพร พรมหพันธ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า หลังการถวายฎีกา กลุ่มคนเสื้อแดงจะขับเคลื่อนต่อเพื่อขับไล่รัฐบาล หากมีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นอีกเสื้อแดงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นจากการขุ่นข้องหมองใจของกลุ่มปฏิวัติเดิมอีก

ทั้งนี้นายสุวิทย์ ดิษฐแพ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอัยการสูงสุด กล่าวความคืบการพิจารณาคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)นำกลุ่มคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความเห็นแย้งกับอัยการฝ่ายคดีอาญา โดย ผบ.ตร.เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้อง จึงต้องส่งเรื่องให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ให้ชี้ขาด ว่า พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามความเห็นแย้งของ ผบ.ตร. ดังนั้นเมื่อ อสส.มีความเห็นสั่งฟ้อง ขั้นตอนต่อไปจะส่งสำนวนและความเห็นของ อสส.กลับไปให้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาผู้รับผิดชอบเพื่อร่างคำฟ้อง และเรียกตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป