รวบโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับโชเฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวเบลเยี่ยม แกล้งทำรถเสียลวงผู้เสียหายลงจากรถก่อนขับหนี เผยประวัติทำแล้วหลายครั้ง เคยต้องโทษข้อหาเดียวกันซ้ำซ้อน แต่ไม่เข็ด

(31ก.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนนครบาล จับกุมแท็กซี่ฉกกระเป๋าถือนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ผู้ต้องหาคือ นายมานพ เขียวพุฒ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/16 ม.8 ต.วังบ่อ องหนองบัว จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2203/2552 ลงวันที่ 30 ก.ค. 2552 ข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางโดยฉกฉวยซึ่งหน้า พร้อมของกลางรถแท็กซี่สีเหลือง ทะเบียน ทน 6779 กทม.คู่ใจที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ และพบมีประวัติต้องโทษเมื่อปี 2550 ข้อหาลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายชาวต่างชาติที่ทำตกในรถแท็กซี่ ท้องที่ สน.ทองหล่อ

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก Mr.Fabbic Leblus ชาวเบลเยี่ยมเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ว่า ถูกแท็กซี่ขโมยกระเป๋าเดินทาง จึงสั่งการให้ศูนย์สืบสวนนครบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริงร้อมสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ใกล้เคียงและแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากจนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุรายนี้คือนายมานพ จึงกระจายกำลังติดตามตัวพบว่า หนีไปกบดานที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงขออนุมัติหมายจับในที่สุดเพราะถือเป็นภัยต่อสังคมสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

นายมานพ รับสารภาพว่า ได้รับผู้เสียหายรายนี้จากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส จตุจักร ไปส่งที่สนามบินดอนเมือง เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างทางมีการพูดคุยกันถูกคอ ผู้เสียหายได้บอกว่า วันอาทิตย์จะกลับมาให้มารับที่สนามบินดอนเมืองด้วย และจะเลี้ยงเบียร์จากนั้นได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ เมื่อถึงวันเกิดเหตุ 24 ก.ค.ที่ผ่านาเวลาประมาณ 4 ทุ่มจึงไปนั่งดื่มเบียร์รอที่ ซอยวิภาวดี 64 จนถึงเวลานัดผู้เสียหายโทรมาจึงรีบไปรับที่ดอนเมืองไปส่งย่านวงเวียนใหญ่ โดยมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วย แต่ระหว่างทางด้วยความโลภของตัวเองจึงวางแผนแกล้งทำรถเสียบริเวณทางลงทางด่วนพระราม 6 เมื่อผู้เสียหายลงจากรถจึงรีบขับรถหนีพร้อมกระเป๋าของผู้เสียหาย แต่เมื่อเปิดดูพบเพียงโน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องเท่านั้นขายได้ราคา 6500 บาทและด้วยความกลัวผิดจึงหลบหนีไปก่อนจนมาถูกตำรวจจับกุมในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook