ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ คืนเงินคนจองสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 เม.ย

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ คืนเงินคนจองสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 เม.ย

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ คืนเงินคนจองสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 เม.ย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วานนี้ (1 พ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง การบริหารสลากในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19

เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 ก.พ. 2563 ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการแพร่ระบาดขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในวงกว้างอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน และเป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 (1) มาตรา 13 และมาตรา 13 (7) แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และข้อบังคับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่าด้วยการออกรางวัล พ.ศ. 2555 ข้อ 18 ประกอบมติคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2563 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงกำหนดแนวทางการบริหารจัดการสลาก ดังนี้

  1. เปลี่ยนแปลงวันออกรางวัลของสลากงวดวันที่ 1 เม.ย. 2563 จากวันที่ 1 เม.ย. 2563 เป็นวันที่ 2 พ.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 14.30-16.00 น. ณ ห้องออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
  2. คืนเงินของผู้ที่ทำรายการจองสลากฯ งวดวันที่ 16 เม.ย. 2563 ที่ได้มีการจำหน่ายสลากในระบบจองล่วงหน้าสลาก เมื่อวันที่ 20-21 มี.ค. 2563 ตามหมายเลขบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ได้ลงทะเบียนไว้
  3. ระงับการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 16 เม.ย. 2563 และงวดวันที่ 2 พ.ค. 2563 ที่จะจำหน่ายในเดือนเมษายน 2563

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 25 มี.ค. 2563

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook