คลังคลอดบอนด์ล็อตใหม่1.19หมื่นล. ถึงคิวขายสถาบันการเงินกลางส.ค.นี้-ดอกเบี้ย3%

คลังคลอดบอนด์ล็อตใหม่1.19หมื่นล. ถึงคิวขายสถาบันการเงินกลางส.ค.นี้-ดอกเบี้ย3%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้เงินกู้จากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง 8 หมื่นล้านบาทในช่วงวันที่ 13-15 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้โอนเข้าไปเป็นเงินคงคลังแล้วทั้งหมด ถึงตอนนี้จึงอยู่ระหว่างเตรียมแผนออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งล็อตใหม่ โดยจะวางระยะเวลาที่เหมาะสมกับการเบิกจ่ายเงิน เนื่องจากในระยะนี้โครงการต่างๆ ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งอยู่ระหว่างขั้นตอนการประมูลและเมื่อใกล้ถึงเวลาเบิกจ่ายจริง สบน.จะเตรียมแผนการกู้เงินที่เหมาะสมต่อไป

โดยในระยะใกล้นี้ สบน.เตรียมเปิดขายพันธบัตร(บอนด์) รอบใหม่ จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะขายช่วงกลางเดือนส.ค. วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาทและต้นเดือนก.ย.อีกประมาณ 8 พันล้านบาท เป็นการขายให้กับนักลงทุนประเภทสถาบัน อายุพันธบัตรประมาณ 5 ปี เช่นเดียวกับพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดเล็กน้อยโดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 5 ปีในตลาดอยู่ที่ 2.9%

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังได้จัดทำเว็บไซต์ไทยเข้มแข็ง www.tkk2555.com เพื่อสำรวจความต้องการของประชาชนว่ามีความต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์อีกมากเท่าไร โดยตั้งแต่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแสดงความจำนงผ่านเว็บไซต์และสายด่วนไทยเข้มแข็ง 1689 นั้นมีผู้สนใจเข้ามาลงทะเบียนกว่าวันละ 300 ราย จนถึงปัจจุบันยอดอยู่ที่ประมาณ 3 พันรายทั้งการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์และสายด่วนไทยเข้มแข็ง และจากข้อมูลที่ประชาชนลงทะเบียนทั้ง 2 ช่องทาง พบว่ามีความต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งอยู่อีกมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่รายละ 1.17 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมนำข้อมูลนี้รวบรวมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อเตรียมเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งให้กับประชาชนต่อไป และในอนาคตจะขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้สำรวจความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย

ตอนนี้ยอดคนเข้าดูเว็บไซต์และโทรผ่านสายด่วนไทยเข้มแข็งอาจยังไม่มาก เนื่องจากกระทรวงการคลังยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการนัก และจะปรับปรุงเว็บไซต์และสายด่วนไทยเข้มแข็งเพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพคล่องในระบบยังมีอีกมากและดอกเบี้ยเงินฝากที่ประชาชนได้รับก็อยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปจึงต้องการสร้างทางเลือกที่เหมาะสมอีกช่องทางหนึ่งให้กับประชาชนในช่วงนี้ รายงานข่าวระบุ

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้สั่งการให้ทีมงานพัฒนาระบบตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการแบบละเอียดทุกโครงการเป็นรายจังหวัด เพื่อให้ประชาชนที่ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งทราบว่าเงินที่พวกเขาให้รัฐบาลกู้ยืมไปทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นจริงและในแต่ละจังหวัดใช้จ่ายในโครงการใดบ้าง ถือเป็นการเปิดช่องทางการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินที่โปร่งใสของภาครัฐโดยตรงจากประชาชนเป็นครั้งแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook