สหรัฐเห็นสัญญาณ ศก.ฟื้นครึ่งปีหลัง

นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันอาทิตย์ว่า ไม่ปฏิเสธที่จะเพิ่มภาษีในอนาคต ทั้งนี้ นายไกธ์เนอร์ และนายลาร์รี ซัมเมอร์ส ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ต่างออกไปให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ว่า แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังฉุดเศรษฐกิจจากภาวะย่ำแย่ แม้ว่าอัตราการว่างงานกำลังเพิ่มสูงขึ้น และยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลก็ตาม

ทั้ง 2 คนย้ำด้วยว่า เศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตในช่วงครึ่งหลังปีนี้ และยังมองไม่เห็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะกลับมาถดถอยซ้ำสองอีก

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงมีแนวโน้มที่อัตราภาษีจะปรับสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ทั้งนายไกธ์เนอร์และนายซัมเมอร์ส ยอมรับว่า อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 9.5 และคงจะไม่ลดลงจนกว่าจะถึงครึ่งหลังของปี 2553

การคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้ง 2 คน ได้รับการสนับสนุนจากนายอลัน กรีน สแปน อดีตประธานธนาคารกลาง หรือเฟด ซึ่งให้สัมภาษณ์กับเอบีซีว่า วิกฤติการเงินของสหรัฐที่เลวร้ายที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ ยังไม่ได้สิ้นสุดเสียทีเดียว แต่กำลังดีขึ้น นายกรีนสแปนระบุว่า เขามั่นใจมากว่า เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐดิ่งลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ นายซัมเมอร์ส กล่าวถึงโครงการเงินสดเพื่อรถเก่าที่ได้รับการ ตอบรับเป็นอย่างดี เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ กำลังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง.