นักธุรกิจให้คะแนน6เดือนรัฐบาล6.4เต็ม10

นักธุรกิจให้คะแนน6เดือนรัฐบาล6.4เต็ม10

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการสำรวจทัศนะผู้ประกอบการต่อผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ให้คะแนนความสำเร็จในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 6.4 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งถือว่า รัฐบาลสอบผ่านในระดับปานกลาง เพราะจากการสำรวจความคาดหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ผู้ประกอบการมองรัฐบาลด้วยความเข้าใจว่า ปัญหาเศรษฐกิจแย่เกินกว่าที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาได้โดยเร็ว รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมายังไม่เห็นผล โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1 แสนล้านบาท บางโครงการยังไม่ดำเนินการ เช่น โครงการชุมชนพอเพียง หรือ เอสเอ็มแอล ที่ขณะนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท ออกมาใช้

ส่วนความพึงพอใจในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนใหญ่พอใจมาตรการด้านสังคมมากที่สุด อันดับหนึ่งคือ มาตรการเรียนฟรี 15 ปี ได้คะแนน 8.0 รองลงมาคือเบี้ยยังชีพคนชรา คะแนน 7.9 ส่วนมาตรการที่ภาคธุรกิจพึงพอใจน้อยที่สุด คือ มาตรการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ได้คะแนน 2.8 ซึ่งถือว่ารัฐบาลสอบตก

การขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อเสริมรายได้ให้รัฐบาลขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากรัฐบาลมีการเติมรายได้จากส่วนอื่นแล้ว ซึ่งการขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและการครองชีพของประชาชน โดยหากมีการขึ้นราคาน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร ในช่วง 5 เดือนที่เหลือจะทำให้เศรษฐกิจไทยติดลบเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.3 ดังนั้น รับบาลควรให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาชดเชยราคาน้ำมันให้ก่อน เพื่อลดภาระผู้ประกอบการและประชาชนนายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับปัจจัยที่เป็นปัญหาของภาคธุรกิจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ เห็นว่า ปัญหาการชะลอตัวเศรษฐกิจเป็นปัญหา ที่บั่นทอนการดำเนินธุรกิจมากที่สุด ทำให้นักธุรกิจมองว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัว รองลงมา คือความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า มีความรุนแรงของปัญหามากกว่า ปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ขณะที่ปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 ภาคธุรกิจมั่นใจมากขึ้น ส่วนปัญหาที่มองว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้มากที่สุด คือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ปัญหาสินเชื่อและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ถือว่ารัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงความเห็นของภาคธุรกิจต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ2 ที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณ 400,000 ล้านบาท เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.2 มองว่า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ปานกลาง รองลงมา ร้อยละ 25.5 กระตุ้นได้น้อย และร้อยละ 21.7 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 10 มั่นใจมาก ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 จะฟื้นเศรษฐกิจได้จริง เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนรายละเอียดของโครงการ ดังนั้น การแถลงผลงานรัฐบาลในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจงรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปี 2552 หรือการฟื้นตัวอาจจะชะลอไปจนถึงช่วงต้นปี 2553 สำหรับมาตรการที่ภาคธุรกิจต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน ให้กับภาคธุรกิจมากที่สุด คือ การกระตุ้นการส่งออก การส่งเสริมการท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจ การควบคุมราคาน้ำมัน และการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 0.5

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงผลสำเร็จผลงานรัฐบาล ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า การแก้ปัญหาการว่างงานเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยล่าสุด ตัวเลขการว่างงาน อยู่ที่ 600,000 คน ส่วนมาตรการที่ไม่สำเร็จ คือ การปล่อยสินเชื่อให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ที่ขณะนี้ มีการปล่อยสินเชื่อ เพียง 1,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังต้องเร่งดูแล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook