ที่ประชุมครม.มีมติให้ปี2552-2562 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้ปี 2552-2562 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน โดยมุ่งเน้นให้คนไทยได้รับการพัฒนาความสามารถในการอ่านและรู้หนังสือภายในปี 2555 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติให้ปี 2552 2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่านของประเทศ และกำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นวันรักการอ่านด้วย โดยให้คณะกรรมการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินการ เพื่อให้คนไทยได้รับการพัฒนาความสามารถในการอ่าน และรู้หนังสือภายในปี 2555 โดยตั้งเป้าหมายให้ประชากรวัยแรงงานเป็นผู้รู้หนังสือ และใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 97.21 เป็นร้อยละ 99 และให้คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปสามารถอ่านออกเขียนได้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 92.64 เป็น ร้อยละ 95 รวมถึงให้ค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยเพิ่มขึ้นจากปีละ 5 เล่ม เป็น 10 เล่ม ขณะเดียวกันให้เพิ่มแหล่งการอ่านครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง และสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อปลูกฝังการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืนทุกรูปแบบ ซึ่งจะมีการดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการอ่าน สร้างนิสัยการอ่าน และการสร้างบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในการส่งเสริมการอ่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า จะเร่งประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านฯ เพื่อกำหนดกิจกรรมต่างๆให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด รวมถึงการเพิ่มหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการอ่านให้มากขึ้น