สุเทพนัดถกก.ตร.ศุกร์นี้ วาระแต่งตั้งยังอึมครึม กฤษฎีกาชี้ตั้ง 152นายพล รก.ผบ.ตร.ทบทวนได้

สุเทพนัดถกก.ตร.ศุกร์นี้ วาระแต่งตั้งยังอึมครึม กฤษฎีกาชี้ตั้ง 152นายพล รก.ผบ.ตร.ทบทวนได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สุเทพนัดถกก.ตร.ศุกร์นี้ ระบุวาระแต่งตั้งตำรวจแต่ยังอึมครึม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุ รักษาการ ผบ.ตร. สามารถปรับเปลี่ยนโผโยกย้าย 152 นายพลได้ เนื่องจากคำสั่ง ก.ตร.ยังไม่สิ้นสุด และยังไม่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) มีหนังสือเชิญประชุมก.ตร.ครั้งที่ 9/2552 ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม เวลา 12.00น. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2อาคาร 1 ตร. โดยมีวาระสำคัญดังนี้ ในวาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 ขอรับความเห็นชอบกำหนดผู้แทน ก.ตร.ในคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) เรื่องที่ 2 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยมีวงเล็บในวาระการประชุมด้วยว่า เอกสารจะนำเสนอภายหลัง ขณะที่วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 5 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส กล่าวหาข้าราชการตำรวจรวม3ราย กระทำผิดวินัย รายงานการประชุมระบุ ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบถามก.ตร.หลายคน ก็ยังไม่มีผู้ใดทราบชัดเจนว่าวาระการแต่งตั้งโยกย้ายที่ระบุในวาระประชุมก.ตร.ครั้งนี้ แท้จริงแล้วเป็นการแต่งตั้งตำแหน่งใดกันแน่ ซึ่งขณะนี้การแต่งตั้งนายพลตำรวจตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ ถึงผู้บังคับการ ในวาระการปรับโครงสร้างใหม่ 152 ตำแหน่งที่ก.ตร.อนุมัติไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะต้องระงับให้สิ้นสภาพแล้วแต่งตั้งใหม่ หรือให้บัญชีรายชื่อทั้ง 152 ตำแหน่งมีผลตามกำหนดเวลาเดิม ที่ตร.วางแผนจะให้มีผลพร้อมการประกาศพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 หรือโครงสร้างใหม่ ลงในราชกิจจานุเบกษา มีผลวันที่ 16 สิงหาคม หรืออาจจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายทดแทน สับเปลี่ยนในตำแหน่งอื่น เนื่องจากขณะนี้ยังมีตำแหน่ง ที่ปรึกษา(สบ10) ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง หลังจาก พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด ลาออกไปเป็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งเทียบเท่ารองผบ.ตร. ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มอบหมายให้ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสตช. ไปหาทางออกเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจตามโครงสร้างใหม่ของสตช. ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ส่วนการแต่งตั้งนายตำรวจจะสามารถทำก่อน หรือหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ลงราชกิจจานุเบกษานั้น ขอไปดูข้อเท็จจริงก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผบ.ตร. ลาพักราชการ ผู้รักษาราชการแทน (รรท.) ผบ.ตร. จะสามารถทำหน้าที่แต่งตั้งโยกย้ายแทนได้หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า ได้ค่ะ ผู้รักษาราชการทำหน้าที่แทนได้ทั้งหมด

เมื่อถามถึงกรณีที่ก.ตร. มีมติแต่งตั้ง 152 นายพลไปแล้ว จะสามารถเข้าไปรื้อโผใหม่ได้หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า มติก.ตร. ถ้ายังไม่ถึงที่สุด ก็อาจจะทบทวนได้มั้ง

เมื่อถามว่า หากมีการทบทวนโผ จะเป็นเหตุให้ 152 นายพลที่ได้รับการประกาศรายชื่อไปแล้วฟ้องก.ตร. ต่อศาลปกครองได้หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า ต้องดูว่ามีเหตุผลให้ทบทวนโดยชอบหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุผล ก็ต้องไปศาลปกครอง อย่างไรก็ตามมติก.ตร. ที่ออกมาถือว่ายังไม่สิ้นสุดจนกว่าจะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง อะไรที่ยังไม่เสร็จ ก็ทบทวนได้ตลอดเวลา นัด3หน่วยหาข้อสรุป152นายพล

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายสุเทพ ได้สั่งให้รวบรวมความเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจใหม่ตามโครงสร้างใหม่ของ ตร. โดยที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐบาลให้ความเห็นว่าการแต่งตั้งนายตำรวจก่อนที่ พ.ร.ฎ. แบ่งส่วนราชการ ตร. พ.ศ. 2552 จะมีผลใช้บังคับ ไม่น่าจะทำได้ เนื่องจากยังไม่มีโครงสร้างและตำแหน่งรองรับ แต่โดยหลักในทางบริหารสามารถดำเนินการเป็นการภายในเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่าน ด้วยการจัดเตรียมบุคลากรเอาไว้ก่อน แต่ค่อยนำเข้าสู่การพิจารณาของ ก.ตร. หลังมีการประกาศพ.ร.ฎ. แบ่งส่วนราชการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ล่าสุดมีความพยายามในการนัด 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย ตร. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าวร่วมกันแล้ว แหล่งข่าว กล่าวและว่า ในเบื้องต้นคาดว่าการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ น่าจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1. การแต่งตั้งนายตำรวจเข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างลงจากการเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งสามารถเตรียมการล่วงหน้าได้ เพราะถือว่ามีตำแหน่งรองรับชัดเจน

2. การแต่งตั้งนายตำรวจลงตำแหน่งที่รอกำหนดใหม่ ไม่น่าสามารถดำเนินการใดๆ ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook