ภาพ70ไร่จบ ฎีกาคุกชั่วชีวต

ภาพ70ไร่จบ ฎีกาคุกชั่วชีวต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เผยสตอ.คดีสนธิ อยู่ในทีมจับกุม!

ศาลฎีกาพิพากษากลับให้จำคุกตลอดชีวิต ภาพ 70 ไร่ เจ้าพ่อยาบ้าคลองเตย ฐานกระทำความผิดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ายาบ้า ภายหลังถูกฟ้องเมื่อปี 2546 เป็นคดีโด่งดัง ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง เผยเบื้องหลังคดี ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาคดียิงสนธิ ร่วมทีมจับกุมเจ้าพ่อยาบ้า เป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ จนนำไปสู่การจับกุม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 ส.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลอาญา ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดี ย.5361/2546 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือนายสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ อายุ 39 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2546 บรรยายความผิดจำเลยสรุปว่า วันที่ 1-28 ม.ค.2541 จำเลยกับนายสุชาติ หรือหมู ปานทะโชติ และพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ตกลงกันจำหน่ายยาบ้าจำนวน 12,000 เม็ด โดยนายสุชาตินำยาเสพติดมาจากจำเลย แล้วจำหน่ายให้นายอุดร หรือเปาะ มาบางครุ ไปจำหน่ายให้บุคคลอื่น ภายหลังนายอุดรถูกจับกุม และศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 33 ปี 4 เดือน

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-15 มิ.ย.2543 จำเลยสมคบกับพวกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จำหน่ายยาบ้าจำนวน 10,600 เม็ด โดยนายสุชาตินำยาบ้ามาจากจำเลย แล้วร่วมกับนายชำนาญ ระรวยทรง และนายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม ครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายยาบ้าดังกล่าว อันเป็นการสมคบกันกระทำความผิด ภายหลังนายสุชาติ นายชำนาญ และนายสมศักดิ์ ถูกจับกุมดำเนินคดี ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุกนายสุชาติ 33 ปี 4 เดือน พิพากษาจำคุกนายชำนาญและนายสมศักดิ์ คนละ 25 ปี ต่อมาเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีหนังสือแจ้งคำสั่งอนุมัติจับกุมผู้ต้องหา จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีอาชีพคุมวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง รับซื้อขายสินค้ามือสอง และสินค้าหนีภาษี จึงทำให้มีฐานะดี ทั้งยังร่วมกับพ่อภรรยารับเหมาก่อสร้าง และเปิดบ่อนพนันด้วย

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2547 ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต เนื่องจากเห็นว่าโจทก์มีพยานเป็นตำรวจ คนในชุมชน และ ผู้ใกล้ชิดจำเลย มาเบิกความเจือสมถึงความผิด และอิทธิพลของจำเลย โดยพยานโจทก์ไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะมาเบิกความปรักปรำกลั่นแกล้ง ให้จำเลยต้องรับโทษ ส่วนจำเลยเป็นพยานเบิกความเพียงปากเดียวไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานโจทก์ได้ ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2548 ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา เนื่องจากเห็นว่าคำให้การในชั้นสอบสวนและชั้นศาลของนายสุชาติ พยานโจทก์ แตกต่างกันในสาระสำคัญ อีกทั้งไม่เคยพบประวัติว่าจำเลยกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน ทั้งที่โจทก์อ้างว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 13 ปี มีเพียงประวัติเปิดบ่อนการพนันเท่านั้น

ศาลฎีกาประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับว่า จำเลยกระทำความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 จำนวน 2 กระทง ให้ลง โทษจำคุกตลอดชีวิตไว้สถานเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาส่งคำพิพากษาอ่านให้นายสุภาพฟังที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกแล้ว เนื่องจากถูกย้ายไปคุมขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก โดยในวันที่ 6 ส.ค.นี้เป็นการอ่านคำพิพากษาให้อัยการโจทก์ฟังเพื่อทราบ นอกจากคดีนี้นายสุภาพยังถูกศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร และกรรโชกทรัพย์ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2548 และในคดีฟอกเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ที่ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2547 ให้ลงโทษจำคุก 20 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีนี้ถือเป็นผลงานการสืบสวนจับกุมของตำรวจ นำโดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. ขณะนั้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะนั้นเป็นรอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะดำรงตำ แหน่ง ผกก.ประจำบช.ปส. อีกทั้งยังมี ส.ต.อ. วรวุฒิ มุ่งสันติ ตำรวจสังกัดบช.ปส. ที่ในขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ โดย ส.ต.อ.วรวุฒิ เป็นผู้ตรวจ สอบข้อมูลของภาพ 70 ไร่ จากคอมพิวเตอร์ ที่จะเปลี่ยนชื่อและทะเบียนบ้าน คาดประมาณกว่า 60 ครั้ง โดยตรวจไล่ย้อนไปจนกระทั่งเจอภาพ 70 ไร่ตัวจริง จึงทำให้ตามจับกุมตัวได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook