โผล่ภูเก็ต ศูนย์โทร. ไต้หวัน ตุ๋นเหยื่อ โอนเงิน!

โผล่ภูเก็ต ศูนย์โทร. ไต้หวัน ตุ๋นเหยื่อ โอนเงิน!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กองปราบฯ บุกทลายแก๊งไต้หวัน อ้างเป็นพนักงานสถาบันการเงิน โทรศัพท์ลวงเพื่อนร่วมชาติในประเทศจีนให้โอนเงินเข้าบัญชี มีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก สูบเงินไปร่วมพันล้านบาท เผยถูกกดดันหนักจากเชียงใหม่-พัทยา หนีมากบดานภูเก็ต กระจายกันเช่าบ้านเป็นฐานปฏิบัติการถึง 6 จุด ได้ผู้ต้องหาร่วมครึ่งร้อย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตกว่า 70 นาย พร้อมนำหมายศาลภูเก็ตเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายรวม 6 จุด พร้อมกัน ประกอบด้วยพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต 2 จุด อ.ถลาง 1 จุด และอ.กะทู้ 3 จุด หลังจากที่สืบทราบว่าคนร้ายแก๊งดังกล่าวซึ่งรู้จักในนาม คอลเซ็นเตอร์ ใช้จ.ภูเก็ต เป็นฐานปฏิบัติการโทรศัพท์ไปข่มขู่ หลอกลวงเงินจากชาวจีนไต้หวันด้วยกัน โดยอ้างตัวเป็นพนักงานธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ ได้ผู้ต้องหาทั้งชาย และหญิงรวม 40 คน

เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก.แถลงผลการตรวจค้นบ้านเป้าหมายว่า การดำเนินการในครั้งนี้ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร., พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก.ชุดจับกุมนำโดย พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก., พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท., พล.ต.ต. โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท., พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง 70 นาย ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวแก๊งคนร้ายข้ามชาติชาวไต้หวัน ร่วมกันประ กอบธุรกิจหลอกลวงข้ามชาติ ผ่านคอลเซ็นเตอร์ระบบ VoIP จำนวน 6 จุด ในจ.ภูเก็ต

จุดที่เข้าตรวจค้น ประกอบกอบด้วย 1.บ้านเลขที่ 70/4 หมู่ที่ 2 ถ.บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง 2.บ้านเลขที่ 99/142 ม.3 กมลานาทอง ซ.10 ต.กมลา อ.กะทู้ 3.บ้านเลขที่ 99/144 ม.3 กมลานาทอง ซ.10 ต.กมลา อ.กะทู้ 4.บ้านเลขที่ 100/122 ม.ศรีสุชาติ ซ.3 ต.รัษฎา อ.เมือง 5.บ้านเลขที่ 100/123 ม.ศรีสุชาติ ซ.3 ต.รัษฎา และจุด 6.บ้านเลขที่ 68/9 ซ.ข้างสนามกอล์ฟ ถ.วิชิตสงคราม ต./อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต

ทั้งนี้ ผลจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไต้หวันได้ 40 คน แบ่งเป็นชาย 30 คน และหญิง 10 คน พร้อมด้วยของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากมาประกอบกันเป็นคอลเซ็นเตอร์ สำหรับหลอกลวงข้ามชาติผ่านระบบ Voice over Internet Protocal โดยมีผู้ถูกหลอกลวงทรัพย์สินไปนับพันล้านบาท โดยกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ยังมีส่วนความผิดอื่นๆ ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน พนักสอบสวน จะได้ดำเนินการสอบสวนขยายผล และดำเนินคดีเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เชิงทะเล สภ.กมลา และสภ.เมืองภูเก็ต โดย ของกลางประกอบด้วย โทรศัพท์ระบบ VoIP จำนวน 79 เครื่อง VoIP Gateway จำนวน 41 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 65 เครื่อง เครื่องคอมพิว เตอร์โน้ตบุ๊ก 12 เครื่อง หนังสือเดิน ทาง 31 เล่ม เงินสด 200,000 บาท และยาเสพติดให้โทษ (ยาไอซ์) จำนวน 2 กรัม

พล.ต.ต.ปัญญา เผยว่า เป็นการขยายผลจับกุมมาจากจ.เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา 18 แห่ง ซึ่งผู้ต้องหาหลบหนีมาเรื่อยๆ พฤติการณ์จะอ้างตัวเป็นพนักงานสถาบันการเงินต่างๆ โทรศัพท์ไปหาบุคคลเป้าหมายหลักอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ข่มขู่ หลอกลวงว่าบุคคลผู้นั้นเป็นหนี้ หรือได้รับเงินรางวัล เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะไปทำธุรกรรมการเงิน โดยการโอนเงินผ่านเอทีเอ็มเข้าบัญชีที่ผู้ต้องหาแจ้งให้ จากนั้นผู้ร่วมขบวนการจะโอนเงินไปอีกหลายทอด ผ่านบัตรไชน่ายูเนียน เปย์ พบว่ามีการกดที่ประเทศไทยหลายครั้ง มีผู้ถูกหลอกลวงทรัพย์สินไปแล้วนับพันล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรและประกอบอาชีพรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังจะได้สอบสวนติดตามตัวผู้ร่วมขบวน การที่ เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะเป็นขบวนการข้ามชาติ สร้างความเสียหายให้ประชา ชน และระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

พล.ต.ต.ปัญญา ยังกล่าวฝากเตือนไปยังประชาชนทั่วไปว่า อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพราะคนไทยเองที่ไปดำเนินการในลักษณะแบบนี้ในต่างประเทศก็มีเหมือนกัน โดยกลุ่มนี้จะใช้การสื่อสารที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก เบอร์ที่โทร.มาจะโชว์เป็นเบอร์ของประเทศนั้น ที่ผ่านมาทางไทยได้เคยไปจับกุมคนไทยที่ไปดำเนินการในลักษณะดังกล่าวที่ประเทศจีนมาแล้ว 40 คน และคาดว่าแก๊งในลักษณะแบบนี้ยังดำเนินการอยู่อีกมาก แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามจับกุมก็ตาม และอยากขอความร่วมมือประชาชนและเจ้าของบ้านเช่าหากมีกลุ่มบุคคลในลักษณะดังกล่าวเข้ามาดำเนินการในบ้านหรือในชุมชนให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบและจับกุม

(กรอบบ่าย)

#### ๏ฟฝ ๏ฟฝ ๏ฟฝ ๏ฟฝ ๏ฟฝ ๏ฟฝ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook