มาร์คไม่รู้พัชรวาทกลับจากจีนก่อนกำหนด

มาร์คไม่รู้พัชรวาทกลับจากจีนก่อนกำหนด

มาร์คไม่รู้พัชรวาทกลับจากจีนก่อนกำหนด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบนายกรัฐมนตรี รายงานผลการประชุม ก.ตร. อภิสิทธิ์บอกไม่รู้พัชรวาทกลับจากจีนก่อนกำหนด "เทพไท" ปัดรัฐแทรกแซงโยกย้ายตร. สวน"นายกสมาคมตำรวจ"ไปมุดหัวอยู่ไหน สมัย"ทักษิณ"เป็นรบ. สร้างรัฐตร.ไม่เห็นออกมาปริปาก

เมื่อเวลา 08.00 น. วัน 9 ส.ค. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังดำเนินรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์ โดยนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ต.อ.วิเชียร มารายงานรายงานผลประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ กตร. รวมถึงหารือเรื่องการโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงมา ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียร จะดำเนินการเองตามกฎหมาย และจะมีการประชุม ก.ตร.อีกครั้ง เพื่อดูความเหมาะสม โดยไม่มีการเมืองเข้าแทรกแซง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 16 ส.ค.

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางกลับจากประเทศจีนก่อนกำหนดว่า ตนไม่ทราบเลย แต่ที่ผบ.ตร.ลาไว้ถึงวันที่ 14 ส.ค.นี้ เพียงแต่ว่า ได้พูดกันไว้ว่า ในงานพระราชพิธี หรืองานพิธีที่สำคัญก็ขอมาร่วม เมื่อถามว่า จะมีการยกเลิกการลาก่อนกำหนด ที่มีการกำหนดไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีข่าวอย่างนั้น

เมื่อถามอีกว่า ยังมั่นใจว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ได้คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่คุยกันไว้ ทำความซักซ้อมการทำงาาน ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกคนก็ทราบดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็ทราบดี เมื่อถามว่า แต่การที่ พล.ต.อ.พัชชรวาท บินด่วนกลับมานี้ มีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ทราบเลยว่า ผบ.ตร.กลับมาแล้ว

"เทพไท"ปัดรัฐแทรกแซงโยกย้ายตร.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กล่าวถึงกรณีที่นายกสมาคมตำรวจ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ ว่าการแต่งตั้งตำรวจครั้งนี้ เท่าที่จำได้ไม่เคยเห็นฝ่ายการเมือง เข้ามาแทรกแซงบัญชีโยกย้ายตำรวจอย่างชัดเจนเหมือนกับยุคนี้ ว่า ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง นายกฯไม่เคยใช้อำนาจเข้ามาแทรกแซง ล้วงลูกเพื่อการโยกย้าย แต่นายกฯใช้อำนาจเพื่อเข้ามาแก้ไของค์กรตำรวจ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยยึดหลักของกฎหมาย และที่สำคัญคือต้อการความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

"ความจริงเรื่องนี้ เริ่มต้นจากการทำงานของกรมตำรวจ ที่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่กำลังจะเบี่ยงเบนประเด็นไปสู่การล้วงลูกของนักการเมือง เพื่อโยนความผิดให้ฝ่ายการเมืองว่า เป็นผู้แทรกแซงการโยกย้ายเหมือนทุกยุคทุกสมัย ทั้งๆที่การโยกย้ายตำรวจเป่นเรื่องของการช่วงชิงอำนาจ การแต่งตั้งของผู้บังคับบัญชาในสตช."

นายเทพไท กล่าวว่า เห็นได้จากพระราชกฤษฎีกาการแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลปฏิบัติ หลังจากประกาศใช้ 60 วัน และมีการแก้ไข 30 วัน และมีผลบังคับใช้แล้วหลังจากประกาศพรฎ.และพระราชกิจจานุเบกษา ก็เพียงเพื่อจะใช้สิทธิ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายให้เร็วที่สุด จนเชื่อมโยงมาถึงโผโยกย้าย 152 นายพลว่าถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ และเป็นที่จับตามองว่า ฝ่ายการเมืองจะเข้ามารื้อโผให้คนของตัวเองเข้าไปรับตำแหน่งนั้น ก็มีบทพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง

นายเทพไท กล่าวต่อว่า เมื่อมติสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (กตร.) ยืนยันว่าให้เป็นไปตามโผเดิม ก็เป็นเรื่องของกตร. ที่จะต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ที่นายกสมาคมตร.บอกว่า ไม่มียุคใดเข้าไปแทรกแซงเหมือนยุคนี้ ก็อยากถามว่ายุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกสมาคมคนนี้ไปนอนหลับมุดหัวอยู่ที่ไหน จึงไม่ยอมรับรู้การสร้างารัฐตำรวจ จึงอยากให้กลับไปดูการทำงานของสตช.ย้อนหลังว่า ยุคไหนกันแน่ ที่ฝ่ายการเมืองเข้าไปล้วงลูก เล่นพรรค เล่นพวก ล้วงลูก ตั้งเพื่อนร่วมรุ่น ญาติพี่น้อง และตำรวจ ที่ยอมรับใช้ตัวเอง ข้ามหัวผู้อื่นเข้ารับตำแหน่งสำคัญอย่างมากมาย และขอยืนยันว่า ยุคนี้จะไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงสตช. ปล่อยให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีปูดบำเน็จพวกตัวเอง เพราะพรรคมีหลักการที่ชัดเจนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย ตัวนายกฯไม่มีใครเป็นพวกของตัวเองในวงการตำรวจ ไม่มีคนรู้จักหรือญาติพี่น้อง แม้แต่ระดับจ่าตำรวจจนถึงนายพลก็ยังไม่มี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook