ชงยกเครื่องหลักสูตรครู5ปีหลังพบข้อบกพร่อง

ชงยกเครื่องหลักสูตรครู5ปีหลังพบข้อบกพร่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เรียนวิชาชีพครูมากเกินแต่วิชาการน้อย แถมเทียบโอนต่อโทไม่ได้เหมือนคนอื่น

รศ.ดร.สมบัติ นพรัก ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการวางแผนการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรวิชาชีพครูให้มีเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น และปรับปรุงหลักเกณฑ์การศึกษาต่อระดับปริญญาโท 1 ปีรองรับด้วย เพราะหลังจากปี พ.ศ. 2547 ที่ปรับปรุงหลักสูตรปริญญาตรีทางการศึกษาจากเรียน 4 ปี เป็น 5 ปี พบว่า หลักสูตร 5 ปียังมีข้อบกพร่องอยู่ โดยได้กำหนดให้เรียนวิชาชีพครูมากจนเรียนวิชาการหรือเนื้อหาสาระน้อยกว่าหลักสูตร 4 ปี และผู้ที่เรียน 5 ปี ยังเสียเปรียบผู้จบประกาศนียบัตรบัณฑิตที่เรียนสาขาวิชาอื่น 4 ปีและมาเรียนวิชาครูเพิ่มอีก 1 ปี หรือ หลักสูตร 4+1 เพราะหลักสูตร 5 ปี ไม่สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้เมื่อไปเรียนปริญญาโท ในขณะที่หลักสูตร 4+1 สามารถเทียบโอนได้ถึง 40%

รศ.ดร.สมบัติ กล่าวต่อไปว่า ตนยังได้เสนอให้มีการพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพครู ใน 3 หลักสูตร คือ 1.หลักสูตรปริญญาตรีคู่ขนาน สำหรับหลักสูตรวิชาชีพครูที่มีความสัมพันธ์กับหลักสูตรปริญญาตรีอื่น เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต ควบคู่กับการศึกษาบัณฑิต โดยให้มีการเทียบโอนหน่วยกิตระหว่างปริญญาที่ผู้เรียนจะได้รับทั้ง 2 ปริญญา ซึ่งจะทำให้ได้ตัวป้อนหรือนักศึกษาที่มีคุณภาพมากขึ้น 2.หลักสูตรปริญญาตรี-โท 6 ปี สำหรับนิสิตทุนเรียนดีเยี่ยม เพื่อผลิตเป็นครูของครู และ 3.หลักสูตรปริญญาโท 2-3 ปี สำหรับผู้สำเร็จปริญญาตรีอื่น ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วย

อย่างไรก็ตามการปรับปรุงหลักสูตรอย่างเดียวคงไม่ได้ทำให้เกิดครูยุคใหม่ตามที่ต้องการได้ แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น การให้ทุนอย่างต่อเนื่อง การปรับปรุงระบบบริหารจัดการ เป็นต้น เพราะจากการผลิตครูพันธุ์ใหม่รุ่นแรกในปี พ.ศ. 2547 ที่เพิ่งจบการศึกษา พบว่ามีตัวป้อนหรือนักศึกษาที่ได้คะแนนดีมีจิตอาสาเข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เรียนจบถึง 4,051 คน และหลุดไปแค่ 400 กว่าคน เพราะเกรดไม่ถึง แต่เมื่อไม่มีการให้ทุนอีก คุณภาพนักศึกษาที่เป็นตัวป้อนก็กลับไปเหมือนเดิม รศ.ดร. สมบัติ กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook