เชลซียิงโทษดับผี4-1ฟันแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์

เชลซียิงจุดโทษชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 หลังจากในเวลา 90 นาทีเสมอกัน 2-2 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่อังกฤษ วันที่ 9 สิงหาคม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ประตูนำไปก่อนนาทีที่ 10 จากการยิงนอกเขตโทษของนานี่ เชลซี แชมป์เอฟเอคัพยิงตีเสมอนาทีที่ 52 จากการโหม่งของริคาร์โด คาวัลโญ่ กองหลังร่างเล็ก

เชลซีนำห่างเป็น 2-1 นาทีที่ 71 จากลูกปัญหา เมื่อมิชาเอล บัลลัค กองกลางทีมชาติเยอรมนีของเชลซีทำฟาวล์ปาทริค เอวร่า แบ๊คซ้ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงไปนอนเจ็บแต่คริส ฟอย ผู้ตัดสินไม่ให้ฟาวล์และไม่เป่าหยุดเกม ขณะที่ผู้เล่นเชลซีก็ไม่หยุดเล่น โต้กลับเร็วก่อนที่แฟร้งก์ แลมพาร์ด กองกลางเชลซีจะซัดเข้าไป ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นแมนเชสเตอร ยูไนเต็ด

 เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของเชลซี แต่แล้วในช่วงทดเวลาเจ็บ นาทีที่ 92 เวน์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษก็ยิงตีเสมอเป็น 2-2 ทำให้ต้องยิงจุดโทษตัดสิน

เชลซีเป็นฝ่ายยิงก่อน แลมพาร์ด ซัดเข้าไปนำ 1-0 ไรอัน กิ๊กส์ ยิงให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยิงไม่ดีโดนปีเตอร์ เช็ค ผู้รักษาประตูป้องกันไว้ได้ มิชาเอล บัลลัค ยิงให้เชลซีนำ 2-0 ไมเคิล คาร์ริค ยิงให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไล่มาเป็น 1-2 แต่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็ยิงให้เชลซีนำเป็น 3-1 ปาทริค เอวร่า ยิงเบามากไปติดเช็ค ก่อนที่กาลูจะยิงให้เชลซีชนะไป 4-1 คว้าแชมป์ไปครอง

 

ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน 90 นาที อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตรงไปโวยคริส ฟอย ผู้ตัดสินทันทีเนื่องจากไม่พอในที่ฟอยไม่เป่าหยุดเกมทั้งที่เอวร่านอนบาด เจ็บอยู่ ขณที่ก่อนหน้าบัลลัคเจ็บเขาก็เป่าหยุดเกม

 เฟอร์กูสัน กล่าวว่า ผิดหวังมาก ทั้งที่ก่อนหน้ามีสองครั้งที่ฟอยเป่าหยุดเกมเมื่อผู้เล่นบาดเจ็บและ 1 ใน 2 ก็คือบัลลัคที่ล้มลงไปและลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การตัดสินดังกล่าวก็มีผลต่อการแข่งขันเป็นอย่างมาก

 "พวกเราไม่มีสัญชาติญาณนักฆ่า ทั้งที่ควรจะจัดการเชลซีอยู่หมัดตั้งแต่ 45 นาทีแรกแล้ว ประตูที่สองที่เชลซีได้ไม่สมควรให้เป็นประตูบัลลัคศอกใส่เอวร่าชัดเจน แต่เชลซีสมควรได้รับชัยชนะเพราะหลังจากนั้นก็ครองได้เหนือกว่า"

(ภาพจาก Getty Images)