ส.ว.ยังเติร์กลั่น คว่ำพ.ร.บ.กู้เงิน เหตุไม่จำเป็นเร่งด่วน มาร์ค วอนเห็นชอบ ชี้สำคัญต่อแผนฟื้นศก.

ส.ว.ยังเติร์กลั่น คว่ำพ.ร.บ.กู้เงิน เหตุไม่จำเป็นเร่งด่วน มาร์ค วอนเห็นชอบ ชี้สำคัญต่อแผนฟื้นศก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ส.ว.ยังเติร์กประกาศคว่ำ พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้าน ลั่นยังไม่จำเป็นเร่งด่วน นำไปใช้ปี 54-55 วิปวุฒิสภา โบ้ยขึ้นอยู่กับการชี้แจงของรบ. อภิสิทธิ์ แจงสำคัญต่อแผนกู้วิกฤตศก. ขอส.ว.เห็นชอบ มาร์คกดดันคนฝากความหวัง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ เป็นครั้งที่ 30 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถึงชีวิตส่วนตัวหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมว่า ตอนที่เข้ามาเล่นการเมืองตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ แต่ต้องทำใจว่าเราอาจจะมีชื่อเสียงและคนรู้จักเยอะ ซึ่งก็ยังมีเคอะๆ เขินๆ อยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า มีคนชื่นชมเป็นหนุ่มหล่อ หน้าตาดี เป็นนักการเมืองอายุน้อยที่เก่ง รู้สึกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ในแง่หนึ่งเป็นเรื่องของความคาดหวัง ที่มีทั้งสองด้านคือ หนึ่งก็เป็นกำลังใจ เพราะว่าทำให้มีความรู้สึกว่าคนยังฝากความหวังไว้กับเรา แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นแรงกดดัน เพราะบางครั้งปัญหาอุปสรรคที่เผชิญอยู่นี้จะทำให้สมกับคาดหวังของเขาได้เต็มที่คงจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ว่าเรื่องอื่นๆ ก็ธรรมดา ซึ่งก็สนุกสนานเฮฮากันไป

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 6 เดือนที่ผ่านมาจุดที่เด่นที่สุดคือสิ่งที่เคยให้คำสัญญาก็ได้ทำสำเร็จไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และแถมเรื่องรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) เข้าไปด้วย เรามาทำได้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ก็เลยเป็นเรื่องของการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมกันกับเป็นการวางรากฐาน ซึ่งต่อไปไม่ว่ารัฐบาลไหนจะเข้ามาก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเรียนฟรีไม่ฟรีอีก เพราะจะต้องเดินหน้าทำตรงนี้ต่อไป และเป็นเรื่องที่โดนใจชาวบ้านมากที่สุด จากผลการสำรวจหลายอัน

หนักใจการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ปัญหาการเมืองกับปัญหาเศรษกิจควรแก้ไขสิ่งใดก่อน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องแก้ไปพร้อมๆ กัน เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ซ้ำเติมปัญหาการเมือง หรือการเมืองไม่ดีก็เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือเราไม่มีสิทธิ์ เลือกว่าจะทำเรื่องไหนก่อน

ผมก็หนักใจเรื่องการเมืองมากกว่า เหตผุลเพราะว่าเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่เป็นจะเรียกว่าปรากฏการณ์ในเชิงธรรมชาติ ในเชิงระบบ เราต้องมีมาตรการในการแก้ไข การประเมิน แต่การเมืองต้องยอมรับว่าถ้าพูดตรงไปตรงมาก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งคัดค้าน เป้าหมายเขาก็คือว่าทำอย่างไรไม่ให้การเมืองมันเรียบร้อย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นเรื่องที่จะเรียกว่าต้องต่อสู้ก็ใช่ แต่ว่าบนหลักการที่เราพยายามจะให้เกิดความสมานฉันท์ ทำอย่างไรที่จะให้เบาลง นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า สีเหลือง สีแดง และเรื่องของคดี เรื่องของตำรวจ จะลงตัวอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความลงตัวก็ต้องอยู่ที่ความตรงไปตรงมา ซึ่งผมย้ำกับเจ้าหน้าที่ตลอด แต่ว่าในเรื่องของกฎหมายทุกคนก็ทราบดีว่าจะกี่คนก็เท่านั้นความเห็น เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเคารพกระบวนการ เพียงแต่ว่าตรงไหนที่เกิดความไม่เป็นธรรม ตรงไหนที่มีความไม่สบายใจว่ามีการเข้าไปแทรกแซง มีการทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้องในการใช้อำนาจ ผมก็มีหน้าที่คอยติดตาม หรือว่าถ้าคดีไหนมีอุปสรรคปัญหาที่จะต้องขัดขวางจะต้องมาช่วยกันดูว่าทำอย่างไรที่จะขจัดปัญหาอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้

รัฐบาลชักแม่น้ำทั้ง5ให้ส.ว.ผ่านกู้เงิน

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 50 คน ประกาศไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันที่ 10 สิงหาคม ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้สาระคล้ายกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน และเมื่อตอน พ.ร.ก.กู้เงิน เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาก็มี ส.ว.ไม่เห็นด้วยเยอะอยู่เหมือนกัน แต่สามารถผ่านการพิจารณาไปด้วยคะแนนมากกว่า 10-20 คะแนน เพราะฉะนั้น จึงได้กำชับรัฐมนตรีทุกคนว่าต้องไปชี้แจง พ.ร.บ.กู้เงินฯให้ละเอียดและจะพยายามเข้าร่วมประชุมกับวุฒิสภาให้ได้ แต่บังเอิญว่าวันที่ 10 สิงหาคม จะต้องรับเสด็จนายกรัฐมนตรีบาห์เรน และมีงานที่ต้องรับเสด็จฯในช่วงเย็นอีก ดังนั้น ช่วงอื่นๆ ตนจะให้เวลากับวุฒิสภาอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยชี้แจงทำความเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลอยากให้ผ่าน เพราะว่าขณะนี้ที่ประชาชนต้องการความมั่นใจในเรื่องการสร้างงานในช่วง 2-3 ปี ที่เราจะต้องช่วยกันทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมา เพื่อสร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้ประชาชน แต่ถ้ามาสะดุดตรงนี้มันจะกระทบกับความมั่นใจ จิตวิทยาไปจนถึงกระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งถ้ามีข้อห่วงใยอะไรตนอยากให้ไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการ เพราะว่าเป็น พ.ร.บ. ไม่ได้เป็น พ.ร.ก. ถ้ากระบวนการสะดุดลง จะไม่เป็นผลดีและจะทำให้เกิดการชะลอและชะงักตัวทางเศรษฐกิจ ให้ยืดเยื้อออกไป ขณะนี้คนมีความเดือดร้อนมาก ทั้งเรื่องของแพง ว่างงาน เพราะฉะนั้นอยากจะขอความสนับสนุนตรงนี้และตนพร้อมที่จะรับฟังแล้วปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่เป็นข้อห่วงใย

ชี้สำคัญต่อแผนฟื้นเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่าเตรียมมาตรการอะไรไว้รองรับหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ก็เหมือนกับกฎหมายภาษีสรรพสามิต เมื่อไม่ผ่านกระบวนการก็กลับไปสู่สภาผู้แทนราษฎร แต่ตนอยากให้ไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการ แม้ไม่ผ่านในชั้นวุฒิสภาจะสามารถกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ยืนยันกลับมาได้ แต่ตนอยากให้เป็นเรื่องของกรรมาธิการมากกว่า

เมื่อถามว่า จะขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับ ส.ว.เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามทำเต็มที่และอยากจะย้ำว่า งานนี้เป็นงานที่สร้างความมั่นคงให้กับแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างรายได้และอาชีพให้ประชาชน โครงการทั้งหลายมีเหตุผลรองรับ มีกรอบชัดเจน และจะทำให้โปร่งใสที่สุด จึงอยากให้ ส.ว.สนับสนุน ซึ่งในกระบวนการต้องมีการตั้งกรรมาธิการอยู่แล้ว ดังนั้นรายละเอียดต่างๆ ก็ไปว่ากันในชั้นกรรมาธิการได้

วิปวุฒิฯชี้ กม.กู้เงินลุ้นโดนคว่ำ

นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฯ ว่ามี ส.ว.แจ้งความจำนงขออภิปรายเกือบ 60 คน โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมารับฟังการประชุมในเวลาประมาณ 10.45 น. สำหรับความเป็นไปได้ที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะไม่ผ่านการพิจารณานั้น ตนเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่เสียงที่ออกมาจะเป็นไปอย่างสูสี ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะชี้แจงอย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้ให้ผ่านหรือไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook