สหรัฐฯต่ออายุโครงการซื้อรถ อัดฉีดเพิ่ม 2 พันล้านดอลล์ หลังงวดแรกกระตุ้นยอดแล้ว 1.8 แสนคัน

สหรัฐฯต่ออายุโครงการซื้อรถ อัดฉีดเพิ่ม 2 พันล้านดอลล์ หลังงวดแรกกระตุ้นยอดแล้ว 1.8 แสนคัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สภาคองเกรสสหรัฐฯ ลงมติอนุมัติเงินงวดใหม่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 68,000 ล้านบาท เข้ากองทุนอุดหนุนการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อต่ออายุโครงการ Cash for Clunkers แล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 ส.ค.) หลังโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างสูงและสามารถกระตุ้นยอดการซื้อรถยนต์ในตลาดสหรัฐฯได้ตามเป้าหมายโครงการ ประธานาธิบดี บารัก โอบามา โชว์ตัวเลขความสำเร็จ เผยรถใหม่ช่วยชาติประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงกว่า 50%

สุดท้ายแล้วทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ก็ลงคะแนนเสียงให้การอนุมัติรัฐบาลในการอัดฉีดเงินอุดหนุนงวดใหม่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับโครงการดังกล่าวซึ่งมีเป้าหมายให้ผู้ใช้รถ นำรถเก่าที่กินน้ำมันไปเข้าโรงงานรีไซเคิลเพื่อแก้ปัญหาด้านเชื้อเพลิงและมลพิษในอากาศ แล้วซื้อรถคันใหม่ที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า ซึ่งผู้ซื้อจะได้ราคาส่วนลดพิเศษจากการอุดหนุนของรัฐบาล โครงการนี้นอกจากจะได้ประโยชน์ในแง่สิ่งแวดล้อมแล้วยังมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถใหม่ในตลาดรถยนต์สหรัฐฯ ซึ่งกำลังซบเซาเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบการเพิ่มเงินเข้ากองทุน Cash for Clunkers ไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯได้ลงคะแนน 60 ต่อ 37 คะแนนเสียง อนุมัติเงินอุดหนุนงวดใหม่ นับเป็นการต่อลมหายใจให้กับกองทุนดังกล่าว ซึ่งเงินงวดแรก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวว่า โครงการนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่าประสบความสำเร็จทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อมและพลังงาน รวมทั้งในเชิงการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ในขั้นแรกเริ่มของโครงการนี้ เราจะสามารถเพิ่มอัตราการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้มากกว่า 50% นั่นหมายถึงผู้บริโภคจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นปีละ 700 - 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง ที่สำคัญคือพวกเขากำลังช่วยกันกำจัดรถเก่าบุโรทั่ง ที่ซดน้ำมันและปล่อยไอเสียสร้างมลพิษทางอากาศออกไปจากถนนหนทางตลอดกาล ผู้นำสหรัฐฯกล่าว

ส่วนวุฒิสมาชิกที่สนับสนุนโครงการนี้ออกมาระบุว่า ประโยชน์เด่นชัดที่เกิดกับอุตสาหกรรมรถยนต์ก็คือ โครงการดังกล่าวช่วยให้ยอดขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤติการเงินเป็นต้นมา เดบบี้ สเตบนาว วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากมลรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ข้อเท็จจริงก็คือโครงการนี้ได้ผลเป็นรูปธรรม ผู้บริโภคเองก็มีความเชื่ออย่างนั้น นักธุรกิจรายย่อยมีความมั่นใจ ผู้ประกอบการโรงงานเหล็กกล้า อะลูมิเนียม นักโฆษณา...ทุกๆคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ต่างก็มีความเชื่อมั่นว่าโครงการนี้ได้ผลดี แต่กระนั้นก็ตาม ฝ่ายผู้ที่คัดค้านก็ยังมีความข้องใจ โดยเฉพาะในกลุ่มวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตซึ่งเกรงว่า โครงการทุ่มเงินอุดหนุนให้ประชาชนซื้อรถใหม่เท่ากับเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหม่ ผลกระทบสุดท้ายแล้วจะตกอยู่กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน บ้างก็มองว่านี่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเฉพาะหน้าเท่านั้น

เจ้าหน้าที่รัฐบาลเผยว่า เงินอุดหนุนงวดแรก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น ถูกใช้ไปแล้วมากกว่า 775 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเวลาเพียง 10 วัน ทำให้เกิดการซื้อรถใหม่จำนวนทั้งสิ้นเกือบ 185,000 คัน ภายใต้โครงการดังกล่าว เจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีสิทธิ์จะได้รับบัตรส่วนลดในการซื้อรถยนต์ใหม่มูลค่า 3,500 ต่อคันนั้น จะต้องนำรถเก่าที่มีอัตราบริโภคน้ำมัน 18 ไมล์หรือน้อยกว่านั้นต่อแกลลอน ไปแลกซื้อรถใหม่ที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันอย่างน้อย 22 ไมล์ต่อแกลลอน ส่วนลดยังมีมากกว่านั้นคือลดถึง 4,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคันหากรถคันใหม่ที่ซื้อมีอัตราบริโภคน้ำมันอย่างน้อย 28 ไมล์ต่อแกลลอน เงื่อนไขเดียวกันนั้นยังสามารถนำไปใช้ได้กับรถประเภทปิกอัพและรถอเนกประสงค์ (เอสยูวี) อีกด้วย ทั้งนี้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ร่วมโครงการไม่สามารถนำรถเก่าที่ผู้ซื้อนำมาแลกซื้อรถคันใหม่ไปขายต่อ แต่จะต้องนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลเท่านั้น

สำหรับรถยนต์ที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุดจากเงินอุดหนุนงวดแรกนั้นได้แก่ จีเอ็ม ทำยอดขายคิดเป็นสัดส่วน 18.7% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมดภายใต้โครงการ Cash for Clunkers ตามมาด้วยโตโยต้า 17.9% และฟอร์ด 16% โดยสรุป คือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของอเมริกันทำยอดขายรวมกันจากโครงการดังกล่าวไปแล้ว 45.3% ขณะที่รถญี่ปุ่นคือ โตโยต้า ฮอนด้า และนิสสัน ได้สัดส่วนยอดขายรวมกัน 36.5% และหากจำแนกเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด ปรากฏว่า โตโยต้า โคโรลล่า มาเป็นอันดับ1 ตามมาด้วย ฟอร์ด โฟกัส โฟร์วีลไดรฟ์ ฮอนด้า ซีวิค โตโยต้า พริอุส และโตโยต้า คัมรี่ เป็นรถใหม่ขายดี 5 อันดับแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook