ศึกใหญ่รออยู่
วงค์ ตาวัน
ผลพวงจากความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับผบ.ตร. ซึ่งลงเอยโดยบิ๊กป๊อดยังคงอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป ไม่มีการปลดย้าย และเชื่อว่าน่าจะอยู่จนครบเทอม ทำลายอาถรรพ์เก้าอี้ผู้นำตำรวจได้สำเร็จ
แต่ปมปัญหาความขัดแย้งนี้ จะปะทุขึ้นอีกรอบ ในวาระการเลือกตัวผบ.ตร.คนใหม่ เพื่อมาแทนพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งจะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้
โดยตามธรรมเนียมปฏิบัติ จะเลือกกันประมาณเดือนส.ค.นี้แหละ
ถึงเวลานั้น คงได้เดือดระอุกันอีก
คราวนี้เป็นอำนาจเต็มของนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.
ก.ต.ช.จะเป็นคณะกรรมการทำหน้าที่แต่งตั้งผบ.ตร.โดยตรง
ถ้าระดับรองผบ.ตร.ลงไปที่เป็นนายพลทั้งหมด เป็น หน้าที่ของก.ตร.หรือคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ซึ่งคณะนี้มีรองนายกฯเทพเทือกเป็นประธาน
ตามพ.ร.บ.ตำรวจระบุเอาไว้ว่า นายกฯเป็นผู้นำเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นผบ.ตร. ให้ก.ต.ช.พิจารณาอนุมัติ
แถมกำหนดสเป๊กผู้อยู่ในข่ายให้นายกฯเสนอชื่อกว้างมาก คือ ข้าราชการตำรวจระดับพล.ต.อ. ไม่ระบุตำแหน่ง
จะเป็นรองผบ.ตร.ก็ได้ จเรตำรวจแห่งชาติก็ได้ ที่ปรึกษา(สบ10) ก็ได้!
เพียงแต่มีธรรมเนียมประเพณี ที่พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ออกมาท้วงติง นั่นคือ การยึดอาวุโสอันดับ 1
ถึงเวลานั้น นายกฯจะยึดประเพณีนี้หรือไม่!?
หรือจะยึดตามข้อกฎหมาย เพราะเปิดกว้าง ไม่มีประเด็นอาวุโส
หรือไม่แน่ อาจมีการจัดตีความอาวุโสกันใหม่ เพราะมีปมประเด็นเรื่องอาวุโสที่ขัดแย้งกันอยู่
แต่ขณะเดียวกัน แม้คราวนี้เป็นอำนาจเต็มของนายกฯ สามารถเลือกชื่อคนเหมาะสมได้ด้วยตัวเอง อาจไม่หารือรองนายกฯเทพเทือกก็ได้
กระนั้นก็ตาม จะมีแรงกดดันจากภายนอกมากมาย โถมมายังนายกฯ เพื่อผลักดันพล.ต.อ.ที่อำนาจแต่ละกลุ่มสนับสนุนกันอยู่!
จะกลายเป็นเวทีต่อสู้ระหว่างขั้วต่างๆ อีกครั้ง
ขั้วพันธมิตรก็มีพล.ต.อ.ในคาถา ขั้วทหารก็มีพล.ต.อ. ที่เป็นตัวแทน แล้วคงมีแรงลมจากบ้านสี่เสาฯ เข้ามาผสมผสานอีก
แต่แน่นอนประชาธิปัตย์ก็ต้องมองคนที่ไว้วางใจ ได้ด้วย
แรงกดดันและแรงต่อต้านในกรณีนายกฯกับพล.ต.อ.พัชรวาทนั้น ต่างฝ่ายก็คงจะมาเปิดศึกกันอีกหน เพื่อชิงเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่
เพราะเป็นการศึกที่ติดพันมาและจะต้องสู้กันต่อไปไม่จบสิ้นง่ายๆ
จนกว่าจะถึงวันผ่าตัดให้องค์กรตำรวจเป็นมืออาชีพปลอดพ้นการแทรกแซงได้อย่างแท้จริง!