จับตาอันเชล็อตติ
คารม คมคิด
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพกำลังจะเปิดฉากฤดูกาล 2009-2010 ในสุดสัปดาห์นี้แล้ว
และเริ่ม อุ่นหัว กันด้วยฟุตบอลการกุศล คอมมูนิตี้ ชีลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า เชลซีดวลจุดโทษเอาชนะแมนฯ ยู 4-1 หลังเสมอในเวลา 2-2 คว้าแชมป์ไปครองได้ในที่สุด
ทั้งผลการแข่งขัน รูปเกมที่ออกมา บอกอะไรกับเราได้บ้าง
ก็คงต้องบอกว่านี่คือ 2 ทีมที่น่าจะขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ชิพได้อย่างคู่คี่ ทัดเทียมกันเป็นที่สุด
และนับว่าเป็นการเปิดตัวของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ไม่เลวเลยทีเดียว
โรมัน อับราโมวิช ดึงตัวกุนซือชาวอิตาเลียนมาจากมิลาน เสนอค่าเหนื่อยแสนแพง ย่อมจะคาดหวังเห็นผลงานไว้ไม่น้อย
แล้วอะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่เห็น
ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อันเชล็อตติปรับระบบการเล่นของเชลซี
จนแทบจะเหมือนก๊อบแผนการเล่นของมิลาน มาเลยทีเดียว
นั่นคือหันไปเล่นในระบบ 4-1-2-1-2
นั่นคือแผงมิดฟิลด์ยืนในลักษณะมีมิดฟิลด์ตัวรุกยืนอยู่หลังคู่กองหน้า มีอิสระในการเล่นอย่างเต็มที่
ซึ่งในมิลาน คนที่ได้เล่นในตำแหน่งนี้คือ กาก้า ซึ่งตอนนี้ย้ายไปเล่นให้รีล มาดริด แล้ว
ส่วนคนที่เล่นตำแหน่งนี้ในทีมเชลซี ก็คือ แฟรงก์ แลมพาร์ด
ซึ่งว่าไปแล้วตำแหน่งที่แลมพาร์ดเล่น รวมทั้งระบบที่อันเชล็อตตินำมาใช้ไม่ใช่ของแปลกแต่อย่างใดเลย
เพราะเป็นระบบเดียวกันกับที่เชลซีเคยใช้ในยุคของโฮเซ่ มูรินโญ่ มาก่อน
และในเกมคอมมูนิตี้ ชีลด์ ใน 11 นักเตะตัวจริงที่ออกสตาร์ต ปรากฏว่ามีอยู่ถึง 9 คน ที่เป็นนักเตะในยุคของมูรินโญ่
เรียกอย่างเชยๆ ว่าเป็น เหล้าเก่าในขวดใหม่ ก็คงไม่ผิดนัก
แต่ก็ไม่เหมือนไปชนิดลอกกันมาทุกเม็ด
อันเชล็อตติ ให้สัมภาษณ์หลังเกมด้วยท่าทีสุภาพ นิ่มนวล ไม่มีอาการโอเวอร์แอ๊กติ้ง เหมือน เฮียมู เท่าใดนัก
ให้เกียรติทีม แชมป์เก่า รวมไปถึงเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นอย่างดี
น่าจะเป็นสีสันแปลกใหม่ในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึง
ยิ่งถ้าอันเชล็อตติสามารถเรียนรู้ฟุตบอลอังกฤษได้รวดเร็ว ก็จะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
พรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้อาจจะไม่กร่อย เหมือน 3 ปีที่ผ่านมาซึ่ง ผีแดง ผูกขาดความสำเร็จเอาไว้ทีมเดียวก็เป็นได้
จริงมั้ยครับ