พท.ท้าสุมิทโชว์หลักฐานทุจริตเอสเอ็มแอล อย่าดีแต่พูด กอร์ปศักดิ์ ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ ปชช.ไล่ถึงไป

พท.ท้าสุมิทโชว์หลักฐานทุจริตเอสเอ็มแอล อย่าดีแต่พูด กอร์ปศักดิ์ ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ ปชช.ไล่ถึงไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พท.สวนกลับกอร์ปศักดิ์-รัฐบาลเร่งตรวจสอบโครงการพอเพียงก่อนไล่ล่าเอสเอ็มแอล ท้า ผอ.สพช. อย่างดีแต่พูด แน่จริงโชว์หลักฐานทุจริตเหมือนฝ่ายค้าน รองนายกฯ ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ อ้างคนที่ให้ไปได้มีเพียงประชาชน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (ชุมชนพอเพียง) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ถึงกรณีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (ศพช.) ระบุโครงการเอสเอ็มแอลในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีการทำประชาคมตามระเบียบถึง 601 ชุมชนว่า โครงการเอสเอ็มแอลมีการจัดทำประชาคมเช่นเดียวกับโครงการชุมชนพอเพียง แต่มีระเบียบแตกต่างกันเล็กน้อย นายกอร์ปศักดิ์ควรชี้แจงเรื่องของตัวเองให้กระจ่างว่ารัฐบาลดำเนินการตามนโยบายและระเบียบที่วางไว้หรือไม่ก่อนที่จะไปเชื่อมโยงกับโครงการในอดีต หากเอสเอ็มแอลมีปัญหาเรื่องทุจริตจนทำให้งบประมาณแผ่นดินรั่วไหลนั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องแยกออกจากโครงการชุมชนพอเพียง เพราะผู้มีอำนาจอนุมัติ และวงเงินเป็นคนละชุดกัน พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้องหากนายกอร์ปศักดิ์จะตรวจสอบเอสเอ็มแอล แต่นายกอร์ปศักดิ์และรัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงเสียก่อน

"ทำไมสมัยก่อนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ขุดคุ้ยการทุจริตโครงการเอสเอ็มแอลขึ้นมาตีแผ่ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน เมื่อมีข้อมูลไม่ชอบมาพากลก็ควรเอามาเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบ แต่วันนี้ตัวเองเป็นรัฐบาลกลับมาทำตัวเป็นฝ่ายค้านเสียเองนายปานปรีย์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะใช้เวลารวบรวมข้อมูลให้คณะทำงานภายใน 30 วันเพื่อจัดหมวดหมู่ให้สะดวกต่อการดำเนินคดีอาญาต่อไป ขณะนี้เริ่มมีประชาชนจังหวัดต่างๆ อาทิ จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ติดต่อขอยื่นข้อมูลหลักฐานให้แล้ว นอกจากนี้จะตั้งกระทู้ถามเป็นประเด็นๆไป หากรัฐบาลอยู่ยาวไปจนถมัยสามัญทั่วไป พรรคจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเตรียมส่งเอกสารการขออนุมัติโครงการของชุมชนต่างๆที่พบลายมือในลักษณะเดียวกันเกือบทุกโครงการ ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือตรวจพิสูจน์ว่าเป็นลายมือของคนกี่คน ป็นลายมือของเจ้าหน้าที่บริษัทขายสินค้าหรือไม่ ส่วนที่นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) ระบุว่าพบโครงการเอสเอ็มแอล 601 ชุมชนในสมัยรัฐบาลที่ผ่านๆมาไม่ได้ทำประชาคมนั้น ถ้ามีหลักฐานต้องนำมาแสดงให้สาธารณชนรับทราบเหมือนที่อย่างพรรคเพื่อไทยทำ ไม่ใช่พูดอย่างเดียว

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.)กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา ประชุมพิจารณาปัญหาทุจริตชุมชนพอเพียง โดยเชิญ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยมาชี้แจง หลังการประชุม นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เลขานุการ กมธ. แถลงว่า วันที่ 13 สิงหาคมนี้ กมธ.จะสุ่มเชิญชุมชนในเขต กทม. และผู้อำนวยการ สพช.มาชี้แจง จากนั้นจะลงตรวจสอบปัญหาในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ในเบื้องต้น กมธ.พบความไม่โปร่งใสหลายพื้นที่ ส่อทุจริตตั้งแต่การทำประชาคมชุมชน การคัดเลือกชุมชน มีเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองท้องถิ่นไปชี้นำ จึงได้ตั้งอนุ กมธ.ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีตนเป็นประธาน

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา โฆษก กมธ.กิจการองค์กรฯ กล่าวว่า ควรจะตรวจสอบตั้งแต่ต้นทุนราคาสินค้า ตรวจสอบรายละเอียดบริษัทที่เข้ามาเกี่ยวข้องในโครงการ เนื่องจากจากข้อมูลที่มีอยู่พบว่า มีภาพความเชื่อมโยงตั้งแต่ผู้ประกอบการ และพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ประธาน กมธ. กล่าวว่า กมธ.พบปัญหาการทุจริตตั้งแต่แรกเริ่มโครงการ โดยโครงการเริ่มเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 แต่มีการอนุมัติงบฯโครงแรกทันทีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552

ส่วนกรณีที่ "มติชนนำเสนอข้อมูลที่คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงของ สพช.ซึ่งมี พล.อ.ชัชวาลย์ ทัตตาท์ รองผู้อำนวยการ สพช.ฝ่ายตรวจสอบและประเมินผล เป็นประธาน ได้จากการลงพื้นที่ และสรุปผลเบื้องต้น 3 ลักษณะ คือ 1.กระบวนการอนุมัติโครงการปุ๋ยอินทรีย์มีความไม่ชอบมาพากล 2.กระบวนการอนุมัติในส่วนกลางมีปัญหา 3.กระบวนการอนุมัติในระดับพื้นที่มีปัญหานั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ เกี่ยวกับผลการตรวจสอบของคณะทำงานชุดดังกล่าว แต่นายกอร์ปศักดิ์ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานผลการตรวจสอบหรือยัง นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็น และไม่ทราบว่าชุดไหนเป็นคนทำ เมื่อผู้สื่อข่าวนำหนังสือพิมพ์ "มติชน ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม หน้า 2 ที่เปิดเผยรายละเอียดดังกล่าวให้นายกอร์ปศักดิ์ดู เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ทราบเรื่อง และว่า ภายใน 1-2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะเข้ามาช่วยตรวจสอบรายละเอียดใน สพช.

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าจะอยู่ในตำแหน่งประธานบอร์ด สพช.ต่อไปหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ ย้อนถามว่า "แล้วคุณจะให้ผมไปไหน คนที่จะให้ผมไปไหนได้ มีเพียงประชาชนเท่านั้น

ส่วนกรณีพรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า สพช.ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ สพช. 3 รายต่อกองปราบปรามจริงนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มงานสอบสวนกองปราบฯได้รับการยืนยันว่า สพช.แจ้งให้กองปราบฯช่วยสืบสวนสอบสวนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย เห็นได้จากในบันทึกประจำวันของคดีนี้ระบุว่า อาจมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ กระทำการส่อไปในทางทุจริต แต่เนื่องจากยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการกระทำผิดทางอาญาเกิดขึ้นหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดที่มีโทษทางอาญาฐานใด ขอให้เอาตัวมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป ลงชื่อผู้อำนวยการ สพช.ไว้เป็นหลักฐาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook