แกนนำเสื้อแดงยันยื่นฎีกา17ส.ค.ไม่มีปะทะ

แกนนำเสื้อแดงยันยื่นฎีกา17ส.ค.ไม่มีปะทะ

แกนนำเสื้อแดงยันยื่นฎีกา17ส.ค.ไม่มีปะทะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วีระ ยันกลุ่มคนเสื้อแดงถวายฎีกา ไม่มีการปะทะแน่ แม้จะถูกยั่วยุ เผยทักษิณเตรียมโฟนอินขอบคุณ ตั้งแต่สิบโมงเช้าของวันที่ 17 ส.ค.

นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ร่วมด้วยกลุ่มพระสงฆ์ สังฆสามัคคี นำโดยพระมหาโชว์ ทัสสนีโย ร่วมกันแถลงข่าวถึงการถวายฎีกาของกลุ่มพระสงฆ์พร้อมกับฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 17 นี้

โดยพระมหาโชว์ กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองตกทุกข์ได้ยาก เศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมแตกแยก และเมื่อการเมืองมีปัญหา สังคมก็จะไม่สงบสุข พระสงฆ์ซึ่งอาศัยสังคมอยู่จึงคิดว่าจะมีทางใดที่ช่วยได้บ้าง โดยไม่กระทบต่อพระธรรมวินัยและกระทบต่อคณะสงฆ์ โดยกลุ่มพระสงฆ์ ได้เห็นกลุ่มคนเสื้อแดงจะถวายฎีกา และมีข้อหนึ่งขออภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ

"การติดคุกก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน พระสงฆ์จึงต้องการถวายฎีการ้องทุกข์ด้วยเช่นกัน แต่หากจะยื่นคนละครั้งกับกลุ่มคนเสื้อแดง ก็กลัวจะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท จึงจะได้เสนอฎีกาครั้งนี้ไปพร้อมๆกับคนเสื้อแดง โดยก่อนที่พระสงฆ์จะร่วมลงนาน ก็ได้พิจารณาแล้วว่าไม่กระทบกับพระธรรมวินัย ขณะที่พระสงฆ์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กระทบและกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้ และเป็นสิทธิที่กระทำได้ ซึ่งยอมรับว่าหากมีพระราชวินิจฉัยไปในทางใด ก็จะยอมรับฟัง โดยขณะนีมีพระสงฆ์ ร่วมลงนามแล้วประมาณ 2000 รูป"

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำในครั้งนี้ ได้แจ้งต่อมหาเถรสมาคมแล้วหรือยัง พระมหาโชว์ กล่าวว่า บางเรื่องไม่จำเป็นต้องขอ เพราะมติครั้งนี้ ไม่กระทบต่อพระธรรมวินัยหรือคณะสงฆ์ และพร้อมยืนยันว่า การที่ฎีกาครั้งนี้ ต้องการเตือนสติไม่ให้สังคมแตกแยกอย่างที่เป็นอยู่

ขณะที่นายวีระ กล่าวชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าสำนักราชเลขาธิการติดต่อมาทาง นปช. ว่า เมื่อตนทราบ ก็รู้สึกเดือดร้อนใจและขออธิบายว่า หากไม่เป็นความจริง และหากเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย ก็ขออภัยด้วย และขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกันในเบื้องต้นว่า ตำรวจนครบาลได้ติดต่อมาทางนปช. ตามหน้าที่ เพื่อประสานงานในการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุม ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจก็ได้ติดต่อประสานงานและปรึกษากับสำนักราชเลขาธิการมาแล้ว

นายวีระ กล่าวว่า เมื่อเราพูดคุยกับตำรวจเสร็จสิ้น ตนจึงติดต่อไปที่สำนักราชเลขาธิการเพื่อประสานให้มั่นใจอีกครั้งหนึ่ง แต่ในช่วงที่ตนติดต่อไปนั้น ราชเลขาธิการ ติดเป็นประธานในที่ประชุมและไม่ได้รับสายของตน หลังจากนั้นอีก 5 นาที รองราชเลขาธิการจึงติดต่อกลับมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ โดยรองราชเลขาธิการก็ชี้แจงว่า เหตุใดราชเลขาธิการไม่ได้รับสาย และได้คุยติดต่อประสานกับรองราชเลขาธิการ

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ถ้าตัดตอนเอาเฉพาะตอนที่ สำนักราชเลขาธิการติดต่อมาก็ไม่ถูกเรื่อง ประชาชนจะไปร้องทุกข์ต่อราชการ เราก็ต้องไปติดต่อเขา ไม่ใช่ให้เขามาติดต่อเรา โดยในเบื้องต้นได้ประสานว่าในวันที่ 17 นี้ จะสามารถมีคน 15 คน เข้าไปที่ศาลาลูกขุน สำนักพระราชวัง โดยจะเป็นฆราวาส 10 คน และพระสงฆ์ 5 รูป"

นายวีระ ยังกล่าวถึง กรณีที่ 29 ปลัดกระทรวง ออกแถลงการณ์ว่า มีคำถามว่าเวลานี้ประชาชนมีความเดือดร้อน เขาห้ามร้องทุกข์กันแล้วหรือ ไหนว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีสิทธิเสรีภาพ ทำไมหัวหน้าส่วนราชการ ถึงออกมาขัดขวางการร้องทุกข์ ถ้าวันนี้มีความทุกข์ จะร้องกับใครไม่ได้แล้วหรือ โดยเฉพาะกับพระประมุข หรือที่ใช้คำศัพท์ว่าถวายฎีกา นอกจากนี้ยังขอถามว่า ปรัชญาของข้าราชการคือการบำบัดทุกข์บำรุงสุขมิใช่หรือ แต่ครั้งนี้ราษฎรมีความทุกข์ แต่ข้าราชการกลับมาขัดขวาง บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร และถามไปถึงรัฐบาลว่า ทำไม มท. 1 ยังแสดงบทบาทที่จะสกัดกั้นและขัดขวางการถวายฎีกา มท. 1 ไม่มีความรู้เรื่อง กม. เลย เพราะเอาอำนาจอะไรไปสั่งให้คนถวายฎีกาไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ต้องมาชี้แจงกรณีสำนักราชเลขาธิการเพราะทางสำนักราชเลขาธิการ มีความไม่พอใจใช่หรือไม่ที่มีการออกข่าวเช่นนี้ นายวีระ กล่าวว่า ไม่ได้มีการแสดงความไม่พอใจ แต่พอตนเห็นข่าวจึงรู้สึกไปเองว่าไม่เหมาะสม และจึงขอออกมาชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี 29 ปลัดกระทรวง มองปรากฏการณ์นี้อย่างไร นายวีระกล่าวว่า ดูรายชื่อแต่ละคนแล้วน่าจะถูกบีบมากกว่า เพราะแต่ละคนก็รับราชการมาตลอดชีวิต น่าจะเข้าใจในหน้าที่ แต่ผู้นำกระทรวง รวมไปถึงนายกฯ น่าจะเป็นผู้บีบบังคับ ให้มีการออกแถลงการณ์เช่นนี้

นายวีระ ยังกล่าวถึง การชุมนุมในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า จะมีการเริ่มต้นตั้งเวทีตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินมาขอบคุณในเวลา 10.00 น. และในเวลา 13.00 น. ก็จะเข้าไปถวายฎีกาในสำนักพระราชวัง ซึ่งขั้นตอนนี้คาดว่าจะใช้เวลา 40 นาที และหลังจากนั้นจะออกมาชี้แจงให้ประชาชนทราบและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะเลิกการชุมนุมในเวลา 14.00 น. และยืนยันว่าในวันนั้นจะไม่มีการปะทะใดๆทั้งสิ้น แม้จะมีการยั่วยุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่จะเข้าไปร่วมยื่นฎีกามีใครบ้างและพล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า เราได้ติดต่อผู้ใหญ่ไว้หลายคนและได้รับการชี้แนะมาว่าอาจไม่เหมาะสมเพราะผู้ใหญ่เหล่านั้น ไม่เคยเข้ามร่วมเคลื่อนไหวในกรณีนี้ จึงน่าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนทำงานมากกว่า โดยผู้ใหญ่ที่ติดต่อไปมีทั้งยศ พล.อ. และยศ พล.ต.อ แต่ไม่มีองคมนตรีเข้าร่วมด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook