มาร์คสั่งล้างสุวรรณภูมิ
มาร์ค สั่งปัดกวาดสุวรรณภูมิกระตุ้นท่องเที่ยว ชี้ให้ ททท.ในต่างประเทศโฆษณา ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ด้าน ปิยะพันธ์ โวไม่ถึงเดือนปราบแท็กซี่เถื่อน-ไกด์ผีอยู่หมัด หลังระดมกำลังปราบ 24 ชั่วโมง ขณะที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนวันสุดท้ายชื่นมื่น นักธุรกิจมะกันแย้มสนใจ ลงทุนบรอดแบนด์-ขนส่งด่วน ในประเทศไทย ด้านไทยอ้อนช่วยเจรจารัฐบาลสหรัฐ ปลดออกจากประเทศต้องจับตามองเป็นพิเศษ หลังเข้มงวดทรัพย์สินทางปัญญาเต็มที่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ส.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่าที่ผ่านมาพบว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยยังคงต่ำแต่ยังเชื่อว่าจะสามารถอยู่ที่ระดับ 14 ล้านคน ทั้งนี้สิ่งที่ได้ข้อสรุปเบื้องต้นจากการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องก็คือการตลาด โดยเราจะใช้วิธีที่จะให้สำนักงานของทางททท.ใน 20 กว่าประเทศเสนอแผนการใช้สื่อท้องถิ่นนั้น ๆ เพื่อเจาะตลาด แต่อุปสรรคก็คือปัญหี่เกิดขึ้นจากคนของเราเอง โดยช่วงที่ผ่านมามีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการไปกลั่นแกล้งนักท่องเที่ยวว่าไปขโมยของในร้านค้าปลอดภาษี รวมไปถึงปัญหาเรื่องของไกด์เถื่อน แท็กซี่ที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งตนได้สั่งการให้ผู้รับผิดชอบเข้าไปดูแลโดยด่วนแล้ว
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันเดียวกัน นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปราบปรามแท็กซี่ผิดกฎหมาย และปราบปรามไกด์ผีว่า การปฏิบัติงานของชุดเฉพาะกิจ ซึ่งมีการจัดกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ คือ ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร ภาค 1 ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ปฏิบัติงานวันละ 111 คน แบ่งเป็น 3 ผลัด ผลัดละ 37 คน ตลอด 24 ชั่วโมงพบว่า ผลงานเป็นที่น่าพอใจมาก สามารถจับกุมผู้กระทำผิดในส่วนของแท็กซี่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.-16 ส.ค. ทั้งสิ้น 205 รายโดยขณะนี้ไม่มีไกด์ผี และแท็กซี่เถื่อนในสนามบินสุวรรณภูมิมาสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสาร ในสนามบินสุวรรณภูมิอีกแล้ว
อีกด้านหนึ่งที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 41 ในวันสุดท้ายของการประชุมว่า รัฐมนตรีอาเซียน ได้ประชุมหารือกับภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกา โดยนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าไทยและภาคเอกชนของสหรัฐ ได้ประชุมทวิภาคีกัน ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐ ระบุว่า สนใจจะเข้ามาลงทุนธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) และธุรกิจจัดส่งด่วน (เอ็กซ์เพรส เดลิเวอรี่ เซอร์วิส) เพราะเป็นสาขาบริการที่สหรัฐเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำอยู่ ขณะที่ฝ่ายไทยขอให้ภาคเอกชน ช่วยสร้างความเข้าใจกับรัฐบาลสหรัฐ ว่าไทยให้ความสำคัญด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง เพื่อให้ปลดไทยพ้นจากสถานะประเทศที่ต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ และขอให้ช่วยคงสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีพีเอส) กับไทยต่อไป.
