เสนอพระปฐมเจดีย์เป็นมรดกโลก
วธ.ลุย ดัน 7 แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ทั้งพระบรมธาตุฯ ที่นครศรีฯ พระปฐมเจดีย์ ล้านนา ศรีวิชัย เจ้าพระยา สถาปัตย์เจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ และแหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน สุวรรณโคมคำ
"วธ." ลุย ดัน 7 แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกโลก" ทั้งพระบรมธาตุฯ ที่นครศรีฯ -พระปฐมเจดีย์-ล้านนา-ศรีวิชัย-เจ้าพระยา-สถาปัตย์เจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ และแหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน-สุวรรณโคมคำของไทย กับเมืองบ่อแก้ว ของลาว ที่ 2 ประเทศ จับมือขึ้นทะเบียนร่วมกัน
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมของคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมอนุกรรมการมรดกโลกฯ ได้พิจารณาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ตามที่กรมศิลปากร ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และชาวนคร ปฐม เสนอให้เป็นมรดกโลก จำนวน 7 แหล่งแล้ว ประกอบด้วย 1.แหล่งวัฒนธรรมล้านนา 2.ภูมิทัศน์วัฒนธรรมแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา 3.กลุ่มสถาปัตย กรรมของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ 4.เส้นทางวัฒนธรรมศรีวิชัย 5.แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน-สุวรรณโคมคำ จ.เชียงราย ประเทศไทย และแขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) 6.พระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และ 7.องค์พระปฐมเจดีย์ โดยคณะอนุกรรมการมีมติเห็นชอบให้ 7 แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของไทยเสนอเข้าสู่บัญชีชั่วคราวแหล่งมรดกโลกวัฒนธรรมต่อไป
นายธีระ กล่าวว่า แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสนและสุวรรณโคมคำแขวงบ่อแก้ว สปป. ลาว ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการหลายฝ่าย ทางสำนักโบราณคดีของไทยรายงานให้ตนทราบว่า นายบ่อแสงคำ วงดาลา รมช.กระทรวงวัฒนธรรม สปป.ลาว ให้การสนับสนุนขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมร่วมกันด้วย ขณะนี้ไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปแลกเปลี่ยนองค์ความรู้วิชาการและการจัดทำบัญชี ชั่วคราว ตนจะรายงานความคืบหน้าให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติฯ รับทราบ อย่างไรก็ดี วธ.จะเสนอรายชื่อแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมทั้ง 7 แหล่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในเร็ว ๆ นี้
"อายุของแหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน กับแหล่งโบราณคดีสุวรรณโคมคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันร่วมพันปี และนับเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือของสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิด กันที่สุด ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันเป็นแห่งแรก และจะมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกหนึ่งแห่ง" รมว. วัฒนธรรมกล่าว ขณะที่ นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า ในระดับเจ้าหน้าที่ของสองประเทศได้ประสานงานกันอย่าง ต่อเนื่อง และได้ลงพื้นที่เมืองโบราณสุวรรณโคมคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว พบว่าคูเมืองโบราณมีสภาพสมบูรณ์อยู่มาก ไม่มีชาวบ้านเข้าไปรบกวนแผ้วถางทำไร่ จึงเห็นร่องรอยที่ตั้งถิ่นฐานบ้านเมืองในอดีต ครั้งที่เป็นช่องประตูแม่น้ำโขงตอนเหนือของสองประเทศ ซึ่งรับอารยธรรมความยิ่งใหญ่จากจีน และอินเดีย มาผสมผสานจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ศิลปกรรมที่โดดเด่นของเมืองโบราณแห่งนี้.
