เบี้ยประกันชีวิตรวมสิ้นไตรมาส 2 ปี 2552 โตต่อเนื่อง 15.5%

เบี้ยประกันชีวิตรวมสิ้นไตรมาส 2 ปี 2552 โตต่อเนื่อง 15.5%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตเมื่อสิ้นไตรมาส 2 (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2552 มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างน่ายินดียิ่ง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) มีการเติบโตเป็นลบ แต่เบี้ยประกันชีวิตรับรวม (Total Premium) ซึ่งหมายถึงเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ (New Business Premium) รวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป (Renewal Premium) มีทั้งสิ้น 119,950.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันจำนวน 16,056.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.5 แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก (First Year Premium) 27,357.6 ล้านบาท อัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 24.0 เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) 12,122.9 ล้านบาท อัตราการเติบโตร้อยละ 17.5 และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป (Renewal Premium) 80,469.7 ล้านบาท อัตราการเติบโตร้อยละ 12.5 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 86

บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวร์รันส์ จำกัด จำนวน 40,469.2 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 33.7 อันดับ ที่ 2 บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด จำนวน 16,416.3 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 13.7 อันดับที่ 3 บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จำนวน 10,759.0 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.0 อันดับที่ 4 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 9,580.6 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.99 และ อันดับที่ 5 บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 9,552.5 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.97

หากจะพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัทประกันชีวิต ซึ่งพิจารณาเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ในเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2552 ปรากฎว่า เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ (New Business Premium) มีทั้งสิ้น 39,480.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันจำ7,098.9 ล้านบาท อัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 21.9 แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก 27,357.6 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว 12,122.9 ล้านบาท บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่รวมสูงสุด หรือมีการขยายงานใน 6 เดือนแรกของปี 2552 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บริษัท อเมริกันอินเตอร์เนชั่นแนลแอสชัวร์รันส์ จำกัด จำนวน 9,001.5 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 22.8

อันดับที่ 2 บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด จำนวน 4,828.9 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.2 อันดับที่ 3 บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จำนวน 4,559.7 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.5 อันดับที่ 4 บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,788.2 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.6

อันดับที่ 5 บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 3,694.1 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.4 ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในปี 2552 นี้ อันดับบริษัทที่พิจารณาจากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม และพิจารณาจากเบี้ยประกันชีวิตเฉพาะรายใหม่ (พิจารณาการขยายงานของบริษัท) เป็นอันดับเดียวกัน ต่างกันเฉพาะการเพิ่มหรือลดของส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เท่านั้น

ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับรวมเมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2552 ที่สูงถึงร้อยละ 15.5 นั้น สมาคมมีความมั่นใจว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2552 ธุรกิจประกันชีวิตจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เมื่อต้นปีอย่างแน่นอนซึ่งเดิมสมาคมได้ประมาณการว่าสิ้นปี 2552 เบี้ยประกันชีวิตจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ10.6 สาเหตุที่ธุรกิจประกันชีวิตไทยยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากภาคธุรกิจได้พัฒนากลยุทธ์ในการดำเนินงานด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ กรบริการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนากลยุทธ์ของช่องทางการขายผ่านธนาคาร (Bancassurance) และการขายผ่านทางโทรศัพท์ (Tele marketing) ซึ่งในอนาคตการขายผ่านธนาคารอาจจะมีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่าการขายผ่านตัวแทนก็ได้ เนื่องจากจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ของการขายผ่านธนาคารมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสิ้นไตรมาส 2 พบว่ามีสัดส่วนการตลาดถึงร้อยละ 47.3 (แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก สัดส่วนการตลาดร้อยละ 39.6 เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว สัดส่วนการตลาดร้อยละ 64.5) มากกว่าช่องทางการขายผ่านตัวแทน ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดเพียงร้อยละ 43.5 (แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก สัดส่วนการตลาดร้อยละ 50.1 เบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว สัดส่วนการตลาด ร้อยละ 28.1) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ฝ่ายข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจ สมาคมประกันชีวิตไทย โทรศัพท์ 02- 287-4596-8 ต่อ 110 หรือ Download ข้อมูลสถิติได้จาก www.tlaa.org

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook