คลังละลายพฤติกรรมผู้บริหารระดับสูง

กำหนดยุทธศาสตร์ยาว-ถกตั้งข้าราชการ

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยถึงการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมาว่า เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างรัฐมนตรีทั้ง 3 คน กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการเดินไปข้างหน้าและให้ฝากให้ ปฏิบัติงานตามหน้าที่เพื่อปกป้องแผ่นดิน

ทั้งนี้ยอมรับว่า ตนได้หารือร่วมกับนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และนายพฤติชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง รวมทั้งนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงแทนข้าราชการที่จะเกษียณอายุ ซึ่งขณะนี้วางตำแหน่งลงตัวแล้ว พร้อมกับชี้แจงผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดว่าการโยกย้ายครั้งนี้ได้พิจารณาจากความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงอาจมีทั้งคนสมหวัง และไม่สมหวัง แต่ขอให้เข้าใจว่าทุกตำแหน่งนั้นมีความสำก้ปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมือง

เป็นช่วงเวลาที่เราใช้ร่วมกันให้เป็น ประโยชน์กับทุกฝ่าย รวมทั้งตั้งใจและทบทวน มุมมองของแต่ละคนที่มีต่อองค์กรว่าเป็นอย่าง ไร เพราะเห็นว่ากระทรวงการคลังนั้นสำคัญต่อ ประเทศมาก มีความรับผิดชอบใหญ่หลวงในยามที่ประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นทิศ ทางในการพัฒนาจะเป็นอย่างไร เพื่อกำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อองค์กร และแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน เพื่อว่าใครที่มารับผิดชอบงานต่อ จากพวกผมก็จะเข้าใจยุทธศาสตร์ได้โดยไม่ต้อง ตีความ

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการไปสัมมนาที่เขาใหญ่นั้น เป็นการจุดประกายทางความคิดในการปรับยุทธ ศาสตร์ของกระทรวงการคลัง ปรับวัฒนธรรมองค์ กรการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังให้ใกล้ชิดกัน รวมทั้งการทำงานระหว่างผู้บริหารด้วยกันเองที่เปิดกว้ามากขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้บริหารทุกคนนำเสนอยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลังในอนาคต คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะประชุมเพื่อติดตาม การจัดทำยุทธศาสตร์ต่อไป ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงที่จะเกษียณในเดือน ก.ย. นี้นั้น ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนแต่อย่างใด

ในการประชุมร่วมกันครั้งนี้ ผมได้ให้ คำถามแบบเปิดไปยังผู้บริหารระดับสูงทุกคนว่า ต้องการจะเห็นกระทรวงการคลังเป็นอย่างไรในอนาคตจากนี้ไป และมองตัวเองอย่างไร เพื่อให้นำประมวลผลและวางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในเชิงลึกต่อไป รวมถึงกำหนดแผนปฏิบัติการต่อไปด้วย และจากนี้ต่อไปในอนาคตไม่ว่าใครมาเป็นรัฐมนตรี ก็จะมีกรอบวัฒนธรรมองค์กรในการทำงานร่วมกันที่ชัดเจน.