เกาหลีใต้เศร้าสิ้นวีรบุรุษการเมืองคิม แด จุง ถึงแก่อสัญกรรม

เกาหลีใต้เศร้าสิ้นวีรบุรุษการเมืองคิม แด จุง ถึงแก่อสัญกรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เกาหลีใต้สลด อดีตปธน.คิม แด จุงวีรบุรุษการเมืองลาโลกแล้ว ทิ้งอุดมการณ์และการต่อสู้เพื่อการเมืองประชาธิปไตยที่ต้องต่อกรกับเผด็จการถึงหลายยุคไว้เป็นตำนานเบื้องหลัง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ว่า นายคิม แด จุง อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 83 ปี จากอาการอวัยวะภายในล้มเหลว ภายหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ด้วยอาการปอดบวมและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ โดยโรงพยาบาลในกรุงโซลแถลงว่า เขาเสียชีวิตเมื่อเวลา 13.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการสูญเสียผู้นำเกาหลีใต้ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากชาวเกาหลีใต้และประชาคมโลก จากประวัติการต่อสู้ทางการเมืองด้วยอุดมการณ์เด็ดเดี่ยวอย่างโชกโชน เต็มไปด้วยวิญญาณของนักสู้ รายงานระบุว่า นายคิมได้ดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 1998-2003 ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปี 2000 จากผลงานดำเนินนโยบายตะวันฉาย (Shining policy) ไกล่เกลี่ยปรองดองกับเกาหลีเหนือ จนนำไปสู่การประชุมสุดยอดกับนายคิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก ขณะที่ประวัติเข้าสู่วงการเมืองก่อนเป็นผู้นำประเทศของเขานั้น เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่ยากลำบากและโชกโชน ต้องต่อสู้กับเผด็จการเกาหลีใต้หลายยุคสมัย ในช่วงเป็นผู้นำฝ่ายเกาหลี และสร้างชื่อว่าเป็นแชมป์พิทักษ์สิทธิมนุษยชนด้วยอุดมการณ์ และรอดพ้นการลอบถูกสังหารหลายครั้ง รวมทั้งเหตุการณ์ลัตกพาตัวที่โรงแรมในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 1973 จากสายลับเกาหลีใต้ด้วย ทั้งนี้ นายคิมได้เริ่มต้นทำธุรกิจขนส่งก่อนจะถูกจะบกุมและเกือบถูกประหารจากพวกคอมมิวนิสต์ระหว่างสงครามเกาหลี ก่อนที่เขาจะหลบหนีได้ ภายหลังสงครามดังกล่าว เขาได้เข้าสู่การเมืองการเมือง เพื่อต่อสู้กับเผด็จการอึง มาน เฮ ซึ่งถูกบีบออกจากอำนาจเมื่อปี 1960 ก่อนจะได้รับเลือกเข้าสู่สภาเมื่อปี 1961 ก่อนสภาเกาหลีใต้จะถูกยุบจากผู้นำกองทัพปัก จุก ฮีซึ่งแม้จะบริหารเศรษฐกิจดี แต่ก็ใช้กฎเหล็กละเมิดสิทธิมนุษชนต่อต้านฝ่ายตรงข้าม ขณะที่นายคิมกลับเข้าสู่สภาได้อีกในปี 1963 หลังได้รับเลือกตั้งอีก และเริ่มฉายแววเป็นผู้นำรุ่นหนุ่มในสภาเกาหลีใต้ ในปี 1971 เขากลายเป็นผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเกือบได้เป็นผู้นำเกาหลีใต้แต่ถูกรัฐบาลปักจุกฮีโกงการเลือกตั้ง หลังจากนั้น เขาถูกความพยายามลอบสังหารซึ่งถูกแกล้งทำให้เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่เขายังคงรณรงค์ต่อต้านผู้นำเผด็จการเกาหลีใต้รายนี้ในสหรัฐและญี่ปุ่น กระทั่งเดือนก.ค.ปี 1973 เขาถูกลักพาตัวจากโรงแรมในกรุงโตเกียวจากสายลับเกาหลีใต้ ก่อนจะถูกนำไปทิ้งทะเล แต่ทางการสหรัฐและญี่ปุ่นสามารถช่วยเหลือเขาได้ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงโซล แต่ถูกกักบริเวณในอีกสัปดาห์ต่อมา และถูกห้ามเล่นการเมือง ในปี 1976 นายคิมเข้าร่วมกับกลุ่มนักสู้ประชาธิปไตยและนำขบวนประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ แต่ถูกจับและจำคุก ก่อนได้รับการปล่อยตัวและกักบริเวณในบ้านพักในปี 1978 อย่างไรก็ตาม ในปี 1979 ปรากฎว่า เผด็จการปัก จุก ฮีถูกลอบสังหาร จากหัวหน้าข่าวกรองเกาหลีใต้ แต่หลังจากนั้นอีก 7 เดือน นายพลชุน ดู ฮวาน ก็ขึ้นมายึดอำนาจประเทศ ขณะที่นายคิมถูกส่งตัวเข้าคุกในข้อหาขายชาติ และถูกตัดสินโทษประหารชีวิตจากศาลทหาร แต่โทษดังกล่าวถูกลดเหลือจำคุกตลอดชีวิต จากแรงกดดันของรัฐบาลสหรัฐ แลกกับการเยือนทำเนียบขาวของเผด็จการชุน ดู ฮวาน อย่างไรก็ตาม ในเดือนธ.ค.ปี 1982 คิม แด จุง ได้รับการปล่อยตัวและยอมให้ลี้ภัยพำนักในสหรัฐ แต่อีก 3 ปีต่อมา เขาเดินทางกลับประเทศ ก่อนถูกกักบริเวณในบ้านพัก ทว่าเหตุการณ์นี้จุดกระแสขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ขึ้นมาและบีบให้รัฐบาลเผด็จการยอมรับการปฎิรูปประชาธิปไตย และทำให้ผู้นำฝ่ายค้านทางการเมืองเกาหลีใต้หลายคนได้รับตำแหน่งคืน ต่อมา นายคิม แด จุง ได้ลงสมัครเลือกตั้งประชาธิปไตย แต่นายโรห์ แต วู เพื่อนสนิทของอดีตเผด็จการชุน ดู ฮวาน ได้เป็นประธานาธิบดี แต่นายโรห์ก็ไม่ได้ปฎิรูปการเมืองเกาหลีใต้สู่ประชาธิปไตยจริงจัง และนายคิม แด จุง ได้สมัครเลือกตั้งอีก แต่แพ้ให้กับนายคิม ยัง ซัม อย่างไรก็ตาม ในอีก 5 ปีต่อมา หรือปี 1992 คิม แด จุง ก็พบฝันที่เป็นจริง ผงาดได้เป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ขณะที่ปีต่อมา เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตทางการเงินต้องกู้เงินจากกองทุนระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ เป็นมูลค่า 57,000 ล้านดอลลาร์ แต่ด้วยความสามารถของนายคิม เขาสามารถทำให้เกาหลีใต้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และสามารถปฎิรูปเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นอกจากนี้ เขายังดำเนินนโยบายญาติดีกับเกาหลีเหนือชาติคู่ปรับ ด้วยนโยบายตะวันฉายจนทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นอกจากนี้ เขายังได้อภัยโทษนายชุน ดู ฮวาน ซึ่งได้ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาเป็นขายชาติและคอรัปชั่นภายสิ้นอำนาจเผด็จการด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook