เปิดแฟ้ม ป.ป.ช.ข้อกล่าวหาทักษิณทุจริตกว่า10 คดี -มีอีก3หมายจับหนีศาลมัดคอ ต้องถวายฎีกาอีกเท่าไหร่

เปิดแฟ้ม ป.ป.ช.ข้อกล่าวหาทักษิณทุจริตกว่า10 คดี -มีอีก3หมายจับหนีศาลมัดคอ ต้องถวายฎีกาอีกเท่าไหร่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปีในคดีซื้อที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษกจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้น

ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังต้องคดีอยู่อีกจำนวนมากโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้รวบรวมข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องที่มีการกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เผยแพร่ต่อสาธารณชน เนื่องจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีหนังสือลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2552แจ้งว่า ประธานรัฐสภา มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาข้อหารือของสมาชิกรัฐสภาขอให้ให้ข้อมูลแก่ประชาชนเกี่ยวกับการอายัดเงิน จำนวน 70,000 ล้านบาทเศษ ของ พ.ต.ท.ทักษิณและความคืบหน้าของคดีความต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และรายงานให้ประชาชนทราบ

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดคดีต่างๆที่เสร็จสิ้นแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.

1. เรื่องกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับมอบโอนจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2551 มาดำเนินการ มีดังนี้

1.1 การอายัดเงิน จำนวน 70,000 ล้านบาทเศษ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นกรณีสืบเนื่องจากในระหว่างการไต่สวนของ คตส. ซึ่งได้ใช้อำนาจตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข (คปค.)ฉบับที่ 30 มีคำสั่งอายัดเงินหรือทรัพย์สินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (คู่สมรส) และที่ครอบครัวบุตร บริวาร ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ มาจากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ให้แก่กลุ่มกองทุน เทมาเส็ก ประเทศสิงค์โปร์ โดยมูลค่าเงินหรือทรัพย์สินที่สั่งอายัด จำนวน73,667,987,902.60 บาท แต่จำนวนเงินที่ได้รับแจ้งยืนยันการอายัด จำนวน 66,762,927,024.25บาท

ทั้งนี้ คตส. ได้ให้บุคคลใดที่กล่าวอ้างว่า เป็ นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์ที่อายัดตามคำสั่งดังกล่าว และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการรํ่ารวยผิดปกติยื่นคำร้องเพื่อพิสูจน์ต่อ คตส. ภายใน 60 วัน นับแต่วันออกคำสั่ง และได้มีผู้ยื่นคำร้องต่อ คตส. และคตส. ได้พิจารณาคำร้องดังกล่าวแล้ว

เมื่อ คตส. ได้ดำเนินการไต่สวน เรื่องกล่าวหาพ.ต.ท. ทักษิณ กระทำการอันเป็ นการเอื้อ ประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ทำให้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากหรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรสืบเนื่องจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่อันเป็ นการรํ่ารวยผิดปกติเสร็จสิ้น จึงได้ มีมติส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุดยื่นคำร้ องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ ทรัพย์สิน จำนวน 76,621,603,061.05 บาทตกเป็ นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้ องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 80

หลังจากนั้น อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ กรณีรํ่ารวยผิดปกติดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 เป็ นคดีหมายเลขดำที่อม.14/2551 โดยได้ยื่นรายละเอียดรายการทรัพย์สินที่ คตส. ได้มีคำสั่งอายัดไว้จำนวน 70,000 ล้านบาทเศษต่อศาลด้วย ซึ่งศาลได้รับฟ้ องไว้พิจารณา และตรวจสอบพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว นัดสืบพยานตั้ง แต่วันที่16 กรกฎาคม 2552 เป็ นต้นไป โดยสืบพยานของฝ่ ายผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านก่อน

ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

1.2 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 หมายเลขแดงที่ อม.1/2550 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อัยการสูงสุด โจทก์ กล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ จำเลยที่ 1 และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ซื้อที่ดินของกองทุนฟื ้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินโดยไม่ชอบ (คดีที่ดินรัชดา)

ศาลได้ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ว่า พ.ต.ท. จำเลยที่ 1 มีความผประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้ องกันและปราบปรามการทุจริต ฯ มาตรา 100 (1) วรรคสาม และมาตรา 122 วรรคหนึ่ง ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี

ส่วนความผิดฐานอื่น และคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และยกฟ้ องโจทก์สำหรับคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2โดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 หลบหนี ศาลจึงออกหมายจับ

และขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัวให้มารับโทษ

1.3 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คตส. เป็ นโจทก์ กล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณกับพวก รวม 47 คน กระทำความผิดเกี่ยวกับโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (คดีสลากเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว)

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็ นโจทก์แทนคตส. ในการพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวและออกหมายจับเฉพาะจำเลยที่ 1 สำหรับจำเลยที่เหลือ จำนวน46 คนที่มาศาล ได้มีการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณา

ของศาล

1.4 คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คตส. เป็ นโจทก์ กล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กรณีทุจริตการอนุมัติให้เงินกู้แก่รัฐบาลสหภาพพม่า จำนวน 4,000 ล้านบาท (คดี Exim Bank)

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์แทน คตส. ในการพิจารณาคดีครั้ง แรกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 พ.ต.ท. ทักษิณ จำเลยไม่มาศาล ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว และออกหมายจับจำเลย

1.5 คดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง อัยการสูงสุด โจทก์ กล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณว่า เป็ นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ และปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์แก่บริษัทที่ตนถือหุ้นโดยแปลงค่าสัมปทานเป็ นภาษีสรรพสามิต ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 พ.ต.ท. ทักษิณ จำเลยไม่มาศาล ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว และออกหมายจับจำเลย

1.6 กรณีกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ คณะกรรมการบริหาร และพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับพวก ร่วมกันกระทำผิดฐานเป็ นพนักงานหรือเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิช อบ คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการพิจารณาและรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ครบถ้วน และส่งให้ อัยการสูงสุดเพื่อฟ้ องคดีต่อไปแล้ว ขณะนี ้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของอัยการสูงสุด

. ดังนั้น จึงมีเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับมอบโอนจาก คตส. รวม 6 เรื่องแยกเป็ นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาแล้ว 1 คดี อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาฯ 4 คดี และอยู่ในระหว่างการดำเนินการของอัยการสูงสุดจำนวน 1 เรื่อง โดยมีการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ 3 คดีคือ คดีหวยบนดิน คดีปล่อยเงินกู้ให้แก่พม่า และคดีเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทที่ตนเองถือหุ้น

2. เรื่องที่กล่าวหาต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และอยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 9 เรื่อง ดังนี้

2.1 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณว่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทำคำแถลงการณ์ร่วมไทย - กัมพูชา (Joint Communiqu?) สนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็ นมรดกโลก เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกิจของตนเองในประเทศกัมพูชา มีการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะ ขณะนี ้ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป

2.2 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณว่าทุจริตต่อหน้าที่ โดยกำหนดนโยบายอนุมัติมอบหมายการจัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลแก่เอกชนจากโครงการพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง มูลค่า 30,000 ล้านบาท ในลักษณะการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนและเป็ นการผูกขาดตัดตอนเพียงรายเดียว อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วย

ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2552 เพื่อรองรับเงินของตนเองและพวกพ้องโดยเฉพาะเงินที่ได้จากการขายธุรกิจสัมปทานแก่ต่างชาติ และรํ่ารวยผิดปกติ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่็จจริงแล้ว ปรากฏว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูลจึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป

2.3 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณกับพวกว่า ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการประมูลงานจ้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยวิธีพิเศษ คณะะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน

2.4 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก ว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่กรณีการบอกเลิกสัญญาจ้างงานก่อสร้างทางหลวง หมายเลข 115 สายแยกทางหลวง หมายเลข117 เทศบาลพิจิตร ตอน 2 A ระหว่าง กม.77+000 - กม.88+880 กับห้าางหุ้นส่วนจำกัดบางมูลนากเหล็กเพชรโดยมิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน

2.5 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก ว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนฟื ้นฟูกิจการบริษัท อุตสาหกรรมปิ โตรเคมีคัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) คณะะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขัน้ ตอนการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ เพื่อให้โอกาสชี้แจงงแก้ข้อกล่าวหา

2.6 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก ว่า ทุจริตต่อหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ในการประกอบกิจการค้าในการเดินอากาศ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน

2.7 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณกับพวก ว่า ทุจริตต่อหน้าที่ในการดำเนินโครงการเมกกะโปรเจ็ค ในจังหวัดเชียงใหม่ โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น

2.8 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ว่า กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542กรณีซื้อที่ดินของกองทุนฟื ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินโดยมิชอบ (ที่ดินรัชดา) อยู่ในระหว่างการพิจารณาผลตรวจการสอบข้อเท็จจริงเบือ้ งต้น

2.9 เรื่องกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ กับพวก กระทำผิดเกี่ยวกับการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยโดยมิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวน จากคดีที่อยู่ในศาลฎีกาฯและการไต่สวนของ ป.ป.ช. ถ้ามีคำวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริง ไม่รู้ว่า กลุ่ม นปช.ต้องล่าชื่อประชาชนถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกกี่ฉบับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook